"สถานการณ์การผลิตและส่งออกข้าวไทยในปีการผลิต 56/57 ประมาณการผลผลิตข้าวคาดว่าจะมี 38 ล้านตันข้าวเปลือก จากพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 74 ล้านไร่ และคาดว่าตัวเลขการส่งออกจะอยู่ที่ 7 ล้านตัน ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในปี 55 ที่มีการส่งออก 6.7 ล้านตัน มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท และ ในปี 54 มีการส่งออก 10 ล้านตัน มูลค่า 1.96 แสนล้านบาท" นายยุคล กล่าว
ขณะที่คาดว่าในปีหน้าราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่จะกลับมาฟื้นตัว ทั้งข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง โดยในส่วนยางพารา คาดว่าราคาจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2/57 หรือไตรมาส 3/57 แต่คงไม่พุ่งขึ้นไปจนทะลุ 100 บาท/กก.เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
สำหรับยุทธศาสตร์ค้าข้าวของไทย นายยุคล มองว่า แนวทางความร่วมมือค้าข้าวภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในรูปแบบเดียวกับโอเปค จะช่วยทำให้การค้าข้าวของไทยเข้มแข็งขึ้น แต่ขณะเดียวกันแต่ละชาติในอาเซียนก็ต้องพยายามรักษาตลาดของตัวเอง เพราะฉะนั้นคงต้องหาเวทีพูดคุยเรื่องของความร่วมมือที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีการขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ในอนาคต
นายยุคล กล่าวว่า สินค้าข้าวจะยังเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญเนื่องจากเป็นอาหารหลักของโลก โดยปัจจุบันมีผู้บริโภคข้าวรวมกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก และในภูมิภาคเอเชียถือเป็นพื้นที่ผลิตอาหารที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะประเทศในลุ่มน้ำสำคัญๆ เช่น อินเดีย พม่า กัมพูชา และลาว ซึ่งมีอัตราการขยายตัวและพัฒนาการผลิตข้าวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ เห็นว่าหัวใจสำคัญของการผลิตข้าว คือ ต้องพัฒนาชาวนาให้มีความรู้ทางด้านวิชาการในการปลูกข้าวเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสามารถผลิตจนถึงจำหน่ายได้ด้วยตนเอง โดยมีแนวคิดที่จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่รับจ้างปลูกข้าวในแต่ละพื้นที่เพื่ออบรมเพิ่มความรู้ให้สามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพมากขึ้น
เนื่องจากประเทศไทยถือว่ามีความได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคในด้านงานวิจัยที่มีความก้าวหน้า ทั้งในภาคการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าข้าวให้สูงขึ้น รวมถึงการจัดพื้นที่เศรษฐกิจเกษตรของประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกร และจะต้องมีการส่งต่อความรู้ระหว่างเกษตรกรต่อเกษตรกรเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่าวต่อเนื่อง โดยประเทศไทยจะต้องพัฒนาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถผลิต และทำการตลาดด้วยตนเองให้ได้ก่อนการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 ขณะเดียวกัน ยังเห็นว่าประเทศผู้ผลิตข้าวในภูมิภาคอาเซียนควรจะมีการสร้างความร่วมมือและรวมกลุ่มกันในกลุ่มประเทศผู้ผลิตข้าวเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้การผลิตข้าวในแต่ละประเทศ และสร้างอำนาจการต่อรองกับตลาดต่างประเทศด้วย
นายยุคล กล่าวต่อว่า แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลจะประกาศยุบสภาและอยู่ในช่วงรอการเลือกตั้งใหม่ แต่การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภารกิจหลัก 4 เรื่อง คือ 1.การดูแลเกษตรกร 2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.เรื่องความปลอดภัยของอาหาร และ 4. การบริหารจัดการ
"ทั้ง 4 เรื่องถือเป็นภารกิจสำคัญที่ข้าราชการประจำของกระทรวง ต้องดำเนินการต่อเนื่อง" นายยุคล กล่าว
ส่วนเรื่องที่ชาวนายังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว เนื่องจากตอนนี้รัฐบาลยุบสภาแล้วทำให้การจะนำเงินงบประมาณออกมาใช้จ่ายไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์กำลังดูในเรื่องนี้ และอยู่ระหว่างหาทางออกเพื่อเร่งการจ่ายเงินให้ได้เร็วที่สุด