เงินบาทปิด 32.02/08 แกว่งแคบ นลท.รอผลประชุม FOMC จับตาลด/ไม่ลด QE

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 16, 2013 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.02/08 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.02/03 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างนิ่ง ทรงตัวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อตลาดเพิ่มเติม โดยช่วงนี้นักลงทุนจับตาดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ เพราะต่างรอดูว่าจะมีการปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือไม่

"วันนี้ไม่มีปัจจัยอะไรมาก ตลาดจับตาดูผลประชุม FED เพราะปัจจัยนี้จะมีผลกระทบแรงต่อทั้งโลก เพราะถ้าหากลด QE ขึ้นมาก็จะทำให้เงินที่สะพัดอยู่ในตลาดทั่วโลกตอนนี้จะน้อยลงไป และหากลด QE จะมีผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนบาทเราจะอ่อนค่าลง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.95/103.15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.00/02 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.3755/3780 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3751/3753 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,328.40 ลดลง 12.73 จุด (-0.95%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 23,137 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,461.79 ลบ.(SET+MAI)
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ทรงตัวในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% แตะ 309.49 เมื่อเวลา 08.10 น.ตามเวลาลอนดอน ภายหลังจากที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนร่วงลง โดยนักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้
  • กระทรวงพาณิชย์อินเดีย เปิดเผยเงินเฟ้อระดับค้าส่งของอินเดียในเดือนพ.ย. ขยายตัวเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ โดยดัชนีราคาค้าส่งเพิ่มขึ้น 7.52% เทียบเป็นรายปี และ 7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน นอกจากนี้ยังเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน ซึ่งเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นได้สร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางอินเดียในการปรับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
  • กระทรวงพาณิชย์จีน ประกาศเดินหน้าผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการลงทุนข้ามพรมแดนโดยตรงด้วยเงินหยวน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จีนจะปรับเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.57 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า ในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนนั้น นักลงทุนต่างชาติสามารถใช้เงินหยวนที่ได้ซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย เพื่อลงทุนในประเทศจีนไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งบริษัท ขยายการลงทุน หรือการควบรวมกิจการกับผู้ประกอบการจีน

  • ผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนธ.ค.ปรับขึ้นสู่ระดับ 52.1 ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน จาก 51.7 ในเดือนพ.ย.
  • สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นที่ 52.7 ซึ่งสูงสุดในรอบ 31 เดือน จาก 51.6 ในเดือนพ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนธ.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 51.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เทียบกับ 51.2 ในเดือนพ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนธ.ค. ได้ช่วยผ่อนคลายความวิตกของนักลงทุน หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน และส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจของยูโรโซนจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
  • ธนาคารดอยช์แบงก์ คาดการณ์ว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐอีกราว 2-3% ในปี 2557 พร้อมคาดว่ามูลค่าการชำระสินค้าข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินหยวนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50% เป็น 6 ล้านล้านหยวน หรือราว 20% มูลค่าการค้าทั่วโลกของจีน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ