"ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีได้กำชับการส่งมอบต่อให้เป็นไปอย่างจริงจัง ไม่เกิดภาวะเกียร์ว่าง ส่งต่อไปยังครม.ใหม่ ด้วยความพร้อม" นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า ในส่วนของรัฐบาลยังคงเดินหน้างานเศรษฐกิจในส่วนของกรอบนโยบายที่วางไว้ เพียงแต่ในช่วงนี้จะยังไม่มีนโยบายใหม่ออกมา แต่หน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยในวันนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือ สภาพัฒน์รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือนต.ค.56 ยังเป็นไปได้ด้วยดี อัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพ อัตราดอกเบี้ยทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว
"ยืนยันว่าการช่วยเหลือประชาชนทางด้านเศรษฐกิจจะไม่เกิดการสะดุด งานทุกอย่างยังคงทำอย่างต่อเนื่อง และกรอบนโนโยบายในเรื่องต่างๆ อาทิ ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล การจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(Soft Loan)ให้ภาคธุรกิจในภาคใต้ การจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรยางพารา การจำนำข้าว เหล่านี้ยังคงเดินหน้าตามกรอบเดิม เพียงแต่อาจจะมีความจำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือกับ กกต.เพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลว่าไม่ได้ต้องการเอื้อปประโยชน์ให้กับตนเอง" นายกิตติรัตน์ กล่าว
ส่วนของการรับจำนำข้าวในส่วนของนาปรัง นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า คงจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ คาดว่าตามกรอบหากมีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 และน่าจะได้ครม.ชุดใหม่ช่วงเดือนเม.ย.57 ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการจ่ายเงินในโครงการรับจำจำนำข้าวที่อาจติดขัดช่วงที่มีการยึดกระทรวงการคลัง และ สำนักงบประมาณนั้น เชื่อว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์เกษตรกรจะสามารถนำใบประทวนไปเบิกเงินกับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ได้
ด้านนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ เป็นผู้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่น ภายใต้กรอบกฎหมายที่รัฐบาลรักษาการจะสามารถทำได้ และได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการเดินหน้าตามแผนที่วางไว้