(เพิ่มเติม) โฆษกรัฐบาล เผยสภาพัฒน์จะรายงานผลกระทบจากการชุมนุม 20 ธ.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 17, 2013 14:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เกรงว่าเรื่องผลกระทบจากการชุมนุม โดยเฉพาะการเบิกจ่ายเงินของข้าราชการ แม้เงินเดือนจะเข้าตามปกติ แต่การเบิกจ่ายของภาครัฐได้ชะลอตัวลงทันทีนับตั้งแต่มีการบุกยึดสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณระบุว่าการเบิกจ่ายชะลอลงไปบ้าง แต่เอกชนเมื่อได้สัญญากับภาครัฐก็เริ่มไปขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์จะทำให้เม็ดเงินหมุนพอสมควร

พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ติดตามผลกระทบจากการชุมนุมมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ต่อเนื่องไปถึงการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร สภาพัฒน์ระบุว่าวันที่ 20 ธ.ค.นี้จะทราบตัวเลขว่าการชุมนุมจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน แต่เบื้องต้นพบว่าการท่องเที่ยวชะลอตัวลง

สำหรับภาวะเศรษฐกิจในเดือนต.ค. สภาพัฒน์ รายงานว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ (หลังปรับปัจจัยฤดูกาล) ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดัชนีการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการผลิตภาคเกษตร ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทรงตัว

และเมื่อเทียบกับเดือนต.ค. 55 เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการผลิตยังคงปรับตัวลดลง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลดลงโดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง การส่งออกสินค้าเริ่มหดตัวน้อยลง ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ในขณะที่การท่องเที่ยวเริ่มชะลอตัว เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อัตราการว่างงานยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล

ส่วนสถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลในเดือนตุลาคมสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการเบิกจ่ายจากงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปรับตัวลดลง โดยหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนก.ย. 56 มีจำนวน 5,430,560.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ขณะที่ สถานการณ์ด้านการเงิน ต.ค. สินเชื่อและเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ยังคงขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิ เนื่องจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยเป็นสำคัญ และในเดือนพ.ย.อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลง

พร้อมทั้งประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 56 และ 57 ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 56 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.0 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 2.4 และบัญชีเดินสะพัดขาดดุลร้อยละ 0.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 57 มีแนวโน้มขยายตัวในช่วงร้อยละ 4.0-5.0 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในช่วง ร้อยละ 2.1-3.1 และบัญชีเดินสะพัดขาดดุลร้อยละ 0.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ