(เพิ่มเติม) สศค.ห่วงการเมืองยืดเยื้อกด GDP ปีหน้าเหลือโต 3.5%จากคาด 4%, ปีนี้โตแค่ 2.8%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 26, 2013 12:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 57 จะฟื้นตัวขึ้นมาเติบโตได้ราว 4% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตแค่ราว 2.8% ต่ำกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ในระดับ 3.7% แต่หากปัญหาการเมืองมีความยืดเยื้อออกไปอาจจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้แค่ 3.5%

สศค.ระบุว่า หากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองยืดเยื้อออกไปจะส่งผลกระทบทางลบต่อการท่องเที่ยวของไทย ผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทยที่คาดว่าอาจลดลงถึง 3 แสนคน และอาจส่งผลให้การเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐมีความล่าช้าออกไปอีก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3-4% นอกจากนี้ ในการประมาณการเศรษฐกิจยังต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยง อาทิ การดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้วที่อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนของไทย ภัยธรรมชาติและโรคระบาด อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอุตสาหกรรม

นายสมชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 56 คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ลดลงจากที่คาดการณ์เดิม เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างล่าช้าส่งผลกระทบให้ความต้องการสินค้าส่งออกของไทยลดลง ประกอบกับอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ปรับตัวลดลงและส่งผลให้ครัวเรือนและภาคธุรกิจระมัดระวังการใช้จ่ายและการลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐยังมีแนวโน้มลดลงจากที่เคยคาดไว้ อันเป็นผลมาจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณและการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะเติบโตในอัตราเร่งขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกด้านบริการที่จะขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเกือบทุกภูมิภาค

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 56 จะอยู่ที่ 2.2% ลดลงจากปีก่อนหน้า ตามการชะลอตัวลงของอุปสงค์ภาคเอกชนประกอบกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงอันเป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอลง

ส่วนปี 57 คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมาขยายตัวที่ 4.0% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.5-4.5% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 5.1 โดยมีปัจจัยหลักจากการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่อาจมีความล่าช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ตามคำสั่งของศาลปกครอง และการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่อยู่ระหว่างรอผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ การประกาศยุบสภาของรัฐบาลยังคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐให้เกิดความล่าช้าได้

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะยังคงได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการ นอกจากนี้ สถานการณ์การจ้างงานที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 57 จะอยู่ที่ 2.4% ช่วงคาดการณ์ที่ 1.9-2.9% ตามอุปสงค์ภาคเอกชนที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ