ขณะที่นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษก ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีคำถามว่าการลงทุนภาครัฐจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งก็คงยังตอบไม่ได้ แต่ ธปท.ยืนยันว่ามีโอกาสที่ปีหน้าเศรษฐกิจได้จะเติบโตได้ 4% แม้ความเสี่ยงจะมีโอกาสเบ้ลงต่ำกว่า 4% และเป็นเรื่องที่ต้องเผื่อใจไว้บ้าง
ส่วนปัจจัยเสี่ยงปีหน้ายังต้องจับตาเรื่องการเมืองและเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่หากถามว่าจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาอีกหรือไม่คงพูดยาก เพราะต้องยอมรับงว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายยังมีความอ่อนไหวต่อข่าวสาร ดังนั้น เบื้องต้นยอมรับว่าปัจจัยการเมืองในประเทศตลาดได้รับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง หากระยะต่อไปการเมืองกลับมาดีขึ้นก็เชื่อว่าเงินทุนจะไหลกลับมา
นางรุ่ง กล่าวว่า การส่งออกปี 57 เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวกที่ตลาดของประเทศอุตสาหกรรมหลักเริ่มฟื้นตัว การส่งออกกจะได้รับอานิสงส์และมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจปีหน้าปรับตัวดีกว่าปีนี้ ส่วนการอุปโภคบริโภคประเมินว่าจะขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะเชื่อว่าภาคการผลิตยังทำงานเป็นปกติ ทำให้คนมีรายได้จับจ่ายใช้สอย แต่คนจะมีอารมณ์จับจ่ายใช้สอยมากแค่ไหนคงต้องประเมินอีกครั้ง
สำหรับการส่งออกไทยปีนี้น่าจะเติบโตใกล้เคียง 0% หลังจากกระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ย.56 ติดลบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3/56 ประกอบกับเศรษฐกิจจีนก็พ้นจุดท้องช้างตั้งแต่ไตรมาส 2/56 และเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่น่าจะเริ่มดีขึ้น
"การส่งออกเดือนพ.ย.น้อยก็ต้องยอมรับ แต่ก็ถือว่าสอดคล้องกับที่พาณิชย์ประเมินไว้ โดยทั้งปีโอกาสจะเห็นโต 1% คงไม่ได้แล้ว ดังนั้น การส่งออกทั้งปีคงต่ำ เผื่อใจไว้ได้เลย แต่ถ้าดูเป็นรายเดือน ธปท.ก็พยายามปรับให้สะท้อนกับความเป็นจริงทุกเดือน"นางรุ่ง กล่าว