ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ วันอังคาร: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ, วันพุธ: ดัชนีภาคการผลิตจีน (Official), วันพฤหัส: ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM/PMI) สหภาพยุโรป และจีน (HSBC) รวมทั้งยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ, วันศุกร์: ดัชนีภาคการบริการจีน (Official) และดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป
ปัจจัยที่น่าจับตามอง ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในซูดานใต้ ซึ่งล่าสุดส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลดลงจาก 245,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 200,000 บาร์เรลต่อวัน การเปิดใช้ท่อขนส่งน้ามันดิบ Keystone อย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 57 ที่จะขนส่งน้ามันดิบจากคุชชิ่งไปยังโรงกลั่นบริเวณรัฐเท็กซัสได้ราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันดิบ Keystone รวมทั้งการที่โรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในฤดูหนาว
ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจาก ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ ภายหลังโรงกลั่นในสหรัฐฯเพิ่มกำลังการกลั่นให้อยู่ในระดับสูงเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลภายในประเทศและเพื่อการส่งออกไปยังยุโรปและลาตินอเมริกาที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดปริมาณความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อนหน้า
นอกจากนั้น พนักงานโรงกลั่น Total ในฝรั่งเศสตัดสินใจยุติการประท้วงค่าแรงและกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยการประท้วงดังกล่าวทำให้โรงกลั่นในเครือ Total กว่า 5 โรงต้องปิดทาการชั่วคราว ตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของโรงกลั่นทั้ง 5 คิดเป็นประมาณ 50% ของปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรวมของประเทศ และ รัฐบาลซูดานใต้สามารถปราบผู้ต่อต้านที่พยายามเข้ายึดแหล่งผลิตน้ามันหลักในเมือง Malakal ได้สำเร็จ ภายหลังการปะทะต่อเนื่องนาน 4 วัน โดยว่าสุดรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสวนทางกับราคาน้ามันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบจากผู้นำเข้าในหลักในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซีย ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากดังคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ภายหลังพนักงานโรงกลั่นทั้ง 5 แห่งของฝรั่งเศส ตัดสินใจยุติการประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าแรง ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ามันดัเซลตึงตัว