อย่างไรก็ดี ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อผ่านวิกฤติต่างๆ ไปได้ เนื่องจากไทยมีประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ทั้งปัญหาการเมือง และภัยธรรมชาติต่างๆ
ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงอย่างรุนแรงนั้น ได้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อสถานการณ์การเมือง โดยคาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนต.ค.56 หากต่อเนื่องมาจนถึงเดือนก.พ.ปีนี้โดยไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น คาดว่าจะเสียหายสูงกว่า 5 แสนล้านบาท
ส่วนการปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.57 ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)นั้น หากมีการปะทะกันของกลุ่มคนทั้ง 2 กลุ่ม จะเป็นการเสี่ยงให้เกิดสงครามกลางเมืองและนำไปสู่การปฏิวัติ ซึ่งท้ายสุดจะส่งผลให้ประเทศถดถอยและมีผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่าล้านล้านบาท รวมทั้งสูญเสียโอกาสในการเป็นศูนย์กลาง AEC ด้วย
นายอนุสรณ์ เห็นว่า ทุกฝ่ายควรหาทางออกประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยด้วยการเจรจาโดยสันติวิธี ยึดหลักนิติรัฐภายใต้กฏหมาย พร้อมกับการปฏิรูปการเลือกตั้ง และแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก