"กรมฯ กำลังตรวจสอบรายการสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุม 43 รายการ และสินค้าที่ติดตามดูแล 205 รายการว่ามีตัวไหนอีกที่ต้นทุนลดลงและยังไม่ได้ลดราคา ก็จะตามไปดูและขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตปรับลดราคาลงมา" นายสันติชัยกล่าว
ขณะเดียวกัน กำลังติดตามสถานการณ์สินค้าที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทอ่อนค่า เช่น กลุ่มเหล็ก, ทองแดง, สังกะสี, ปุ๋ยเคมี, สายไฟฟ้า เป็นต้น เพราะเกรงว่าพ่อค้าจะใช้เป็นข้ออ้างปรับขึ้นราคาสินค้า แต่เชื่อว่าภายในไตรมาสแรกปีนี้ราคาสินค้าเหล่านี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่า เพราะผู้ประกอบการยังมีสต๊อกเก่าอยู่ และยังสามารถบริหารจัดได้
นอกจากนี้ กรมฯ กำลังติดตามภาวะราคาน้ำมันดีเซล หากรัฐบาลยกเลิกการอุดหนุนและทำให้ราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ และจะมีผลต่อเนื่องให้สินค้าราคาสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี จะเร่งเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) เพื่อพิจารณาทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุม 43 รายการว่ามีรายการใดที่ควรปรับออกหรือเพิ่มเข้าสู่บัญชีอีกหรือไม่
ส่วนภาวะราคาสินค้าในช่วงที่จะมีการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.57 นั้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะกรมการค้าภายในได้หารือกับผู้ผลิตเพื่อดูแลให้สินค้ามีเพียงพออย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีห้างค้าปลีกสมัยใหม่กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่