นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในท้องตลาด ว่า กระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ขนส่งสินค้า ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และผู้ประกอบการตลาดสด มาหารือร่วมกันในวันพรุ่งนี้ เพื่อวางแผนรับมือและบรรเทาผลกระทบด้านสินค้าที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งในเรื่องของราคาและการป้องกันการขาดแคลน จากกรณีที่จะมีการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานครในวันที่ 13 ม.ค.นี้ แม้ขณะนี้ยังไม่พบการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคา
"การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อยอดการค้าปลีก โดยห้างแม็คโคร, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี มียอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงปีใหม่ลดลง หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ ยอดจำหน่ายสินค้าในแต่ละห้างจะสูงขึ้นมากกว่า 10% แต่หลังจากมีปัญหาการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกาฯ จนถึงขณะนี้ ยอดขายแต่ละห้างลดลง 3% เพราะผู้บริโภคไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย" นายยรรยง กล่าว
ด้านนางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ. สยามแม็คโคร (MAKRO) กล่าวว่า ในช่วงปิดกรุงเทพฯ วันที่ 13 ม.ค.57 ห้างแม็คโครจะเปิดให้จำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนตามปกติ โดยมีการสต๊อกสินค้าล่วงหน้าไว้ 30 วัน และยังได้เตรียมแผนสำรองในการเก็บสต็อกสินค้าและเชื่อมโยงกับบริษัทขนส่งสินค้า ให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนการเดียวกับที่ใช้ในการบริหารสต็อกสินค้าช่วงน้ำท่วมใหญ่ จึงมั่นใจว่า จะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนสินค้า และราคาสินค้าจะเป็นไปตามกลไกตลาด