"กระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองไม่ปกติต่อภาวะสินค้า(ศปบส.) เพื่อประสานงานให้ผู้ค้า ร้านค้าปลีกรายย่อย ที่มีปัญหาขาดแคลนสินค้า เพื่อให้การค้ายังดำเนินต่อไปได้ และไม่กระทบต่อประชาชน และการทำธุรกิจของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่จะมีการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร" นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้ค้าส่ง-ปลีกไทย ห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และตลาดสด
ทั้งนี้ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง ยืนยันว่า จะพยายามไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนสินค้า โดยพร้อมกระจายสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าที่มีอยู่ 21 แห่งรอบกรุงเทพฯ เข้าไปยังพื้นที่ๆ มีปัญหาการขาดแคลนได้ทันที โดยเทสโก้โลตัส มี 4 แห่ง บิ๊กซี 2 แห่ง แม็คโคร 1 แห่ง และเซเว่น-อีเลฟเว่น 14 แห่ง และยังได้เพิ่มปริมาณสำรองสินค้าจากปกติ 10 วัน เป็น 15-20 วัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสั่งซื้อสินค้า หรือจัดหาสินค้า สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ซึ่งเป็นฮอตไลน์ของศูนย์ฯ ให้บริการ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.57 เป็นต้นไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยประสานและอำนวยความสะดวกให้ รวมทั้งขอความร่วมมือสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ขออย่าปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ โดยเฉพาะของกินของใช้ นอกเหนือจากการดูแลไม่ให้สินค้าขาดแคลน ซึ่งกรมการค้าภายในจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวรวิทย์ เจริญวัฒนพันธ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ สามารถขนส่งสินค้าให้ผู้ประกอบการในช่วงปิดกรุงเทพฯ ได้ตามปกติ เพราะได้ประสานงานผู้ประกอบการให้เตรียมสต็อกสินค้าเพิ่มเฉลี่ย 5-10% ประกอบกับได้เตรียมแผนถ่ายสินค้าจากรถขนส่งขนาดใหญ่เป็นรถขนส่งขนาดเล็ก เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่ชุมนุมได้ง่าย
ส่วนนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ เซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า การประกาศปิดกรุงเทพฯ จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนในพื้นที่ชุมนุม โดยได้สั่งการให้ทุกสาขาในพื้นที่ชุมนุมสำรองสินค้ามากกว่าปกติ 2-3 เท่า เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอ พร้อมประสานตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมให้รถขนส่งสินค้าสามารถเข้าไปส่งสินค้าภายในพื้นที่ชุมนุมได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ส่งผลให้ยอดขายในพื้นที่ชุมนุมเพิ่มขึ้นเท่าตัว และราคาสินค้ายังทรงตัวไม่ปรับราคาขึ้น เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ทำให้ผู้ผลิตไม่กล้าปรับขึ้นราคาสินค้า