KBANKคาดปี 57 สินเชื่อโต 9%,บาทผันผวน พร้อมรับมือสถานการณ์ชุมนุม 13 ม.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 8, 2014 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรนันท์ ศรีหงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 3.6-3.7% แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองกดดันอยู่ ซึ่งถ้าหากการเมืองยืดเยื้อไปเกินกลางปี คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตได้เพียง 2-2.5%เท่านั้น แต่ยังอยู่ภายใต้การเติบโตของการส่งออกที่ 5-7% แต่ถ้าหากการส่งออกเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่คาด เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะเหลือการขยายตัวได้เพียง 0.5%

ทั้งนี้ธนาคารยังคงเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อที่ 9% ภายใต้จีดีพีโต 3.6-3.7% และธนาคารจะรักษาหนี้ NPL ไม่ให้เกิน 2.2% เพื่อควบคุมความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนค่าธรรมเนียมก็จะรักษาระดับไว้ที่ 10% ซึ่งคาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับทิศทางของค่าเงินในปีนี้ คาดว่าจะมีความผันผวนและมีแนวโน้มที่จะไปในทิศทางอ่อนค่า โดยมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ การเมืองในประเทศ และการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ แต่ยังคงเชื่อว่าการส่งออกจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี และในระยะต่อไปค่าเงินบาทก็อาจกลับมาแข็งค่าได้

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองจากที่จะมีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.57 ขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมในการจัดเตรียมรองรับกับเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยที่ผ่านมาธนาคารได้มีแผนรองรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เรียกว่า BCP ซึ่งถือว่าได้มีการทดสอบในหลายวิกฤตแล้ว เช่น วิกฤติการเมืองปี 53 และปัญหาน้ำท่วมปี 54 โดยจะสามารถให้บริการทางการเงินได้อย่างไม่ติดขัด และธนาคารยังมีสาขาและตู้ ATM มากเพียงพอที่จะรองรับจำนวนผู้ใช้บริการ

ขณะเดียวกัน ในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการชุมนุมนั้น ธนาคารได้เพิ่มการสำรองเงินสดทั้งในสาขาและตู้ ATM โดยเบื้องต้น ถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อ มองว่าจะไม่มีผลกระทบกับการให้บริการทางการเงินกับประชาชนทั่วไปได้ไม่ต่ำกว่า 7 วันทำการ ทั้งนี้ธนาคารยังไม่มีแนวทางที่จะปิดทำการสาขา ถ้าหากเหตุการณ์ไม่รุนแรงคาดว่าจะยังเปิดทำการได้ปกติ

นอกจากนี้ ธนาคารยังคงติดตามผลกระทบจากการเมืองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีผลกระทบลุกลามไปถึงภาคส่วนใดบ้าง โดยในภาพรวมแล้วยังเห็นว่าธุรกิจในต่างจังหวัดยังเติบโตได้ดี ซึ่งทางธนาคารเน้นการปล่อยสินเชื่อในภูมิภาคมากกว่าในเขตกทม.เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ