นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.07/09 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.12/13 บาท/ดอลลาร์
วันนี้นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ(Non farm Payroll) ประจำเดือนธ.ค.56 ที่จะประกาศในวันนี้
"วันนี้เงินบาทคงแกว่งอยู่ในกรอบ รอความชัดเจนเรื่องตัวเลข Non farm Payroll ของสหรัฐในเดือนธ.ค. รวมทั้งรายงานการประชุม FOMC ทำให้บาทตอนนี้แข็งค่าลงมาเล็กน้อย ไป test ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ เหมือนมี flow ของทาง offshore ที่ขาย(ดอลลาร์)ออกมาค่อนข้างเยอะ คนก็อยากจะปิด position ด้วย หลังจากมีความไม่แน่นอนถึงตัวเลข non farm payroll ที่จะออกมา วันนี้อาจจะมีขาย take profit ออกมา" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.10 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 33.0700 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 1.98599% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 1.99809%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.80/83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.36 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3628/3630 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3623 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 33.1050 บาท/ดอลลาร์
- แบงก์ชาติเตรียมเสนอบอร์ด กนส. วันนี้ รับทราบรายชื่อธนาคารพาณิชย์ต่างชาติที่ขอไลเซนต์ทำธุรกิจในไทย หลังจากนั้นให้เวลา "ธปท.-คลัง" ไม่เกิน 6 เดือนพิจารณาคุณสมบัติ มั่นใจสิ้น มิ.ย.นี้ประกาศรายชื่อผู้ได้ใบอนุญาตรายใหม่ได้ทั้งหมด
- ธปท.เผยเงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบและขณะนี้ธุรกรรมต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ธุรกรรมในตลาดเบาบาง เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ส่วนกรณีบางฝ่ายมองเงินบาทอ่อนหนักทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในไตรมาสแรกเป็นเรื่องที่ตอบยาก ขึ้นกับปัจจัยที่เข้ามากระทบเงินบาทในช่วงนั้นๆ
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(7 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าที่ปรับตัวลดลงเกินคาดในเดือนพ.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเวลา 09.53 น.ตามเวลาโตเกียว ก่อนที่ตลาดจะได้รับทราบรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประจำวันที่ 17-18 ธ.ค.
- นักลงทุนจับตาดูรายงานประชุมนโยบายประจำเดือนธ.ค.ของเฟดในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะเปิดเผยทิศทางของนโยบายการเงินในปี 2557 หลังจากที่การประชุมครั้งที่แล้ว เฟดมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
- นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐจะทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.67 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 107.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ด้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,229.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1244.7 - 1224.2 ดอลลาร์