นายยุคล กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การยกเลิกเก็บเงินเซสไม่ช่วยให้ราคายางพาราในตลาดสูงขึ้นเท่าที่ควร เบื้องต้นประเมินว่าส่วนหนึ่งมาจากสต๊อกยางพาราของจีนที่เหลืออยู่มากถึงกว่า 190,000 ตัน จากปกติที่ควรมีเพียง 100,000 ตัน โดยต้องหาข้อมูลว่าเป็นจริงหรือไม่
พร้อมกันนี้ได้ประเมินแนวโน้มราคายางพาราในปี 57 ว่าจะไม่มีโอกาสสูงถึงระดับ 100-120 บาทต่อกิโลกรัมอย่างแน่นอน แต่จะอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งฟื้นตัว
นอกจากนี้ กระทรวงฯ อยู่ระหว่างยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขออนุมัติเบิกเงินงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราตามมติ ครม.ที่ยังคงค้างอยู่ในปีงบประมาณ 57 อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 21,000 ล้านบาท หลังกระทรวงฯ ประสบปัญหาเบิกจ่ายล่าช้าจากปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลให้ยุบสภา รวมทั้งการประชุมยางพารากับมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และเวียดนาม ที่ต้องเลื่อนไปจากกำหนดเดิมปลายปีที่แล้ว