"การประชุม กนง.ทุกครั้งก็มีความเป็นไปได้ที่ต้องปรับประมาณการ GDP อยู่แล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็คงเหมือนทุกครั้งที่ต้องพิจารณาข้อมูลล่าสุด หากมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญต่อประมาณการ GDP กนง.ก็จะทบทวนอย่างรอบด้าน ขณะนี้ปัจจัยต่างประเทศส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ยอมรับว่าการมืองในประเทศสร้างแรงกดดันต่ออุปสงค์ในประเทศ แต่เชื่อว่าดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันยังสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงเอื้อต่อการลงทุนของภาคเอกชนได้" นางรุ่ง กล่าว
ส่วนเรื่องของพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ก่อนหน้านี้ ธปท.ประเมินไว้อยู่แล้วว่าหากไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย รัฐบาลก็จะสามารถกลับไปใช้งบประมาณปกติได้ แม้ในขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการ อาจทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปกติล่าช้าออกไปอีกนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับว่าต้องใช้เวลาในการปรับกระบวนการแค่ไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร ขอให้รอความชัดเจน รวมถึงผลการประเมินของ กนง.อีกครั้ง
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท โฆษก ธปท. กล่าวว่า ช่วงนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่มีปัจจัยใหม่ ปริมาณธุรกรรมปกติ ไม่ได้มากเหมือนช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินบาทช่วงนี้จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
โฆษก ธปท. กล่าวว่า ในวันที่ 13 ม.ค.ยืนยันว่า ระบบการชำระเงินของธนาคารพาณิชย์ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ขณะที่ ธปท. เตรียมแผนรองรับเหมือนในช่วงน้ำท่วมปลายปี 54 เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบในการทำธุรกรรมการเงินต้องหยุดชะงัก และยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์ได้มีการสำรองเงินสดเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งในช่วงนี้ได้มีการสำรองมากเป็นพิเศษตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีนอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่เกิดปัญหาขาดเงินสด