ส่วนข้อกล่าวหาของนายกิตติรัตน์ ฟังไม่ขึ้นแม้แต่ข้อเดียว คือ 1. ฝ่ายค้านร้องเรียนงบประมาณกับศาลรัฐธรรมนูญทำให้ใช้งบได้ช้า ซึ่งความจริงเงินที่ใช้ในการชำระให้ชาวนาเป็นเงินทดลองจ่ายโดยธกส. โดยที่มีการค้ำประกันโดยกระทรวงคลัง ไม่ได้เป็นเงินงบประมาณ เงินงบประมาณเป็นเพียงเงินชดเชยค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งให้กับธกส. เท่านั้น และอย่างไรก็แล้วแต่ ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยยกคำร้องฝ่ายค้านไปในวันที่ 4 ตุลาคมหรือเพียง 4 วันหลังวันเริ่มต้นปีงบประมาณ ไม่เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลจ่ายเงินช้าไปแล้วกว่า 4 เดือน
2. ผู้ชุมนุมปิดล้อมกระทรวงการคลัง ขอยืนยันว่าไม่ได้มีผลอย่างใดต่อการเบิกจ่ายเงินในโครงการต่าง ๆ นอกจากนั้นการจ่ายเงินค่าข้าวเป็นการจ่ายโดยธกส. ซึ่งไม่ได้ถูกปิดล้อมแต่อย่างใด 3. ฝ่ายค้านลาออก รัฐบาลจึงต้องตัดสินใจยุบสภา ขอชี้แจงว่า การยุบสภาทำให้รัฐบาลอยู่ในสภาพรัฐบาลรักษาการ คือสร้างภาระหนี้สินผูกพันใหม่ไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงคือธกส.ได้เตือนรัฐบาลว่าสภาพคล่องจะหมดตั้งแต่ก่อนยุบสภา นายกิตติรัตน์กลับไม่ได้มีการเตรียมการแต่อย่างใดในขณะที่ยังมีอำนาจเต็มมือ
“ความเดือดร้อนของชาวนาเป็นผลโดยตรงจากนโยบายและการบริหารของรัฐบาล ผู้รับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบคือคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และคุณกิตติรัตน์ วันนี้คุณทั้งสองได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนาและประเทศชาติอย่างมหาศาล อย่ามัวแต่โทษคนอื่น ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกไป" เฟชบุ๊กส่วนตัวนายกรณ์ ระบุ