ทั้งนี้ เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เมื่อมีความชัดเจนแล้วว่ามีการทุจริตในการขายข้าวแบบจีทูจี นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และผู้กำกับนโยบายขณะดำเนินโครงการฯ และเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งต้องรับรู้ข้อมูลโดยมิอาจปฏิเสธเป็นประการอื่น จะต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะประธาน กขช. ที่อาจละเลยปล่อยให้เกิดการทุจริตขึ้น ส่วนจะรับผิดชอบอย่างไร อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ป.ป.ช. เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา โดยไม่ล่าช้า และต้องไม่ให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาใช้ช่องทางกฎหมาย เพื่อประวิงเวลา รวมถึงต้องเอาผิดต่อผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริต ทั้งผู้มีส่วนกระทำการ และผู้กำกับนโยบาย ทั้งทางวินัย แพ่ง และอาญา สำหรับผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และผู้ถูกตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนั้น หากเชื่อว่าตนเองบริสุทธิ์ ต้องให้ความร่วมมือเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงแก้ข้อกล่าวหา ไม่เช่นนั้นสังคมจะลงความเห็นว่า เป็นการยอมรับผิดโดยดุษฎี นอกจากนี้ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องทบทวนโครงการรับจำนำข้าว เพื่อหามาตรการป้องกัน ไม่ให้มีการคอร์รัปชันเกิดขึ้นได้อีก เพื่อให้ชาวนาและประเทศไทยได้รับผลประโยชน์สูงสุด อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากโครงการนี้
"องค์กรฯ เห็นว่า การทุจริตโกงกิน ภายใต้โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชาวนา ระบบการค้าข้าวของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่ความตกต่ำ และความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคม จึงขอเชิญชวนประชาชน และสื่อมวลชนให้ร่วมกันจับตา และส่งแรงกดดันให้มีการตรวจสอบการทุจริต ในโครงการรับจำนำข้าวให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้องตรงไปตรงมาทุกกรณี ความเลวร้ายของการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวนี้ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ย้ำความจำเป็นว่า ประเทศไทยจะต้องมีการปฏิรูปมาตรการกำจัดคอร์รัปชันโดยเร่งด่วน ประเทศไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ถ้าเราปล่อยให้มีการคดโกงตั้งแต่ระดับผู้นำไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน"นายประมนต์ กล่าว