(เพิ่มเติม) AREA เผย ธ.ค.56 โครงการอสังหาฯชะลอเปิดตัวต่อเนื่องถึงปี 57 จากผลการเมือง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 21, 2014 13:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในเดือน ธ.ค.56 มีการชะลอการเปิดตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือน พ.ย.56 โดยในเดือน ธ.ค.56 มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 30 โครงการ มีจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่รวม 4,438 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 15,630 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 57 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงประมาณ 350 โครงการ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่ที่ 475 โครงการ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองยังคงมีความยืดเยื้อต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากสถานการณ์การเปิดตัวโครงการเฉพาะเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการเพียง 30 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,000 ล้านบาท โดยมองว่าในครึ่งปีแรกของปีนี้จะมีโครงการเปิดตัวโครงการจำนวน 125 โครงการ และครึ่งปีหลังจะเปิดตัวอีก 200 โครงการ

นายโสภณ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้น่าจะมีความยืดเยื้อออกไปอีกจนถึงช่วงกลางปีจะส่งผลให้มีการเปิดตัวโครงการน้อยลงจากผู้ซื้อยังไม่กล้าตัดสินใจ ศูนย์วิจัยฯ จึงแนะนำผู้ประกอบการควรชะลอการเปิดตัวโครงการออกไปก่อน เนื่องจากอาจจะเสี่ยงต่อการขายไม่ได้ ส่วนผู้ซื้อควรพิจารณาการซื้อโครงการที่ยังคงเป็นกระดาษ อาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการที่มีความล่าช้าหรือมีการยกเลิกการก่อสร้างได้ โดยมองว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนและส่งเสริมมาตรการคุ้มครองเงินดาวน์ เหมือนกับมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน 2543 เพื่อเป็นการประกันว่าเงินดาวน์ยังคงอยู่ เมื่อมีปัญหาจากการจองโครงการ

"ตั้งแต่ปี 56 จะเห็นได้ว่าสถานการณ์โดยรวมของอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตดีกว่าปี 55 ซึ่งมีการเปิดตัวโครงการในปี 56 ถึง 25% แต่ในช่วงเดือนธ.ค.ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและอารมณ์ของผู้ซื้อที่ส่วนใหญ่ต้องการเก็บเงินสดไว้ โดยมีการเปิดตัวโครงการเพียง 30 โครงการ รวมถึงมีผู้ซื้อน้อยลง โดยขายได้เพียง 18% ไม่ถึง 1 ใน 5 ซึ่งเป็นผลกระทบระยะยาวต่อเนื่องมาถึงปี 57 ที่มองว่าการเมืองยังยืดเยื้อต่อเนื่อง และคาดว่าอาจจะไปถึงกลางปีได้ ซึ่งทั้งปีจะมีโครงการรอเปิดขายใหม่อัก 325 โครงการ ซึ่งจะมีการเปิดประมาณ 25 โครงการต่อเดือน" นายโสภณ กล่าว

จำนวนหน่วยขายอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือน ธ.ค.56 มีทั้งหมด 4,438 หน่วย และประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดกลับกลายเป็นบ้านเดี่ยวแทนที่อาคารชุด โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 1,300 หน่วย (29.3%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 1,254 หน่วย (28.3%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด 1,200 หน่วย (27.0%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

ที่ตั้งโครงการที่เปิดขายส่วนใหญ่จะมีทำเลที่ตั้งอยู่กระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นกลาง และเขตติดต่อเมืองเป็นสำคัญ กรณีอาคารชุดจะเกาะตามแนวรถไฟฟ้าทั้งสายที่เปิดใช้อยู่ในปัจจุบัน และสายที่กำลังจะเปิดใช้ในอนาคต เช่น สายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) สายสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) สำหรับบ้านเดี่ยวจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ติดต่อกับเขตเมืองชั้นนอก เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพระราม 2 เป็นต้น ส่วนทาวน์เฮ้าส์จะกระจายอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นกลาง เช่น วัชรพล อ่อนนุช ติวานนท์โดยเฉพาะบริเวณที่มีแหล่งงานหรือย่านชุมชนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น เช่น ถนนเพชรเกษม ถนนรามคำแหง เป็นต้น

หากพิจารณาระดับราคาขายจะพบว่ามีการเปิดขายที่ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีจำนวน 55 หน่วย (1%) มีมูลค่าโครงการ 49 ล้านบาท (0.3%) ที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 1,093 หน่วย (25%) มีมูลค่าโครงการ 1,637 ล้านบาท (10%) ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 1,086 หน่วย (24%) มีมูลค่าโครงการ 2,548 ล้านบาท (16%) ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 1,820 หน่วย (41%) มีมูลค่าโครงการ 7,139 ล้านบาท (46%) ส่วนที่มีระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 384 หน่วย (9%) และมีมูลค่าโครงการ 4,258 ล้านบาท (27%) ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้

เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ย 18% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 37% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนหน่วยขายได้มากสุดอันดับ 1 คืออาคารชุดระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท จำนวน 591 หน่วย ขายได้แล้ว 292 หน่วย (49%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท จำนวน 480 หน่วย ขายได้แล้ว 87 หน่วย (18%) และอันดับ 3 คือทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท จำนวน 613 หน่วย ขายได้แล้ว 85 หน่วย (14%)

นายโสภณ กล่าวว่า ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 325 โครงการ อาจกล่าวได้ว่าในขณะชุมนุมนี้อารมณ์การซื้ออสังหาริมทรัพย์กำลังจะเหือดหายไปจากความไม่สงบทางการเมือง ทั้งนี้คาดว่าในเดือน ม.ค.57 จะมีโครงการเปิดใหม่ไม่เกิน 30 โครงการ

ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 57 ในด้านปัจจัยบวกนั้น ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัว ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในบางทำเล ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคต รวมถึงพื้นที่ต่างจังหวัดมีชุมชนเมืองใหม่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดมีการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ภาครัฐยังคงชะลอการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ทำให้ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า และการเมืองยังคงไม่สงบนิ่ง การขาดแคลนแรงงานยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ต้นทุนค่าแรง ค่าวัสดุก่อสร้างยังคงเพิ่มสูงขึ้น ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลง และภาระหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของภาคประชาชนลดลงต่อเนื่อง รวมถึงการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังประเมินว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีหลายฝ่ายมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% นั้น ซึ่งหากมีการปรับลดลงจริง มองว่าจะมีผลกระทบในเชิงบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่มากนัก เนื่องจากขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ