ม.หอการค้าไทย คาดตรุษจีนเงินสะพัด 4.7 หมื่นลบ.โต 5.9%, กทม.อาจไม่คึกคัก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 23, 2014 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จะมีเงินจากการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 47,744.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากตรุษจีนปีก่อนที่มีการใช้จ่าย 45,081.06 ล้านบาท ถือว่าการใช้จ่ายตรุษจีนปีนี้คึกคักมากกว่าปีก่อนเล็กน้อย เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น แต่ปริมาณการซื้อสินค้าไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน

ทั้งนี้ เมื่อแยกการใช้จ่าย พบว่า ซื้อของไหว้เจ้า คนละ 3,375 บาท, ทำบุญ 1,791 บาท, ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 2,987 บาท, แต๊ะเอีย 2,911 บาท, สังสรรค์/จัดเลี้ยง 6,944 บาท, ซื้อเสื้อผ้า 2,337 บาท, ท่องเที่ยว 8,550 บาท, ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 5,723 บาท, ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับคนอื่น 7,520 บาท, ซื้อสินค้าคงทน 3,915 บาท ซึ่งการใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทั้งสิ้น ส่วนราคาสินค้าเครื่องเซ่นไหว้ที่แพงขึ้น ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ ปลา ผลไม้ และเหล้า

ขณะที่เมื่อถามถึงสถานการณ์การปิดกรุงเทพฯจะส่งผลต่อการใช้จ่ายตรุษจีนมากน้อยเพียงใด ผู้ตอบส่วนใหญ่ 38.9% ระบุปานกลาง, 24.1% ระบุ มาก ส่วน 20.2% ระบุ น้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบส่วนใหญ่ ระบุเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และกังวลการปิดกรุงเทพฯมากที่สุด แต่เชื่อว่า ปัญหาการเมืองขณะนี้จะหนักน้อยกว่าปี 53 พร้อมกับมองว่า บรรยากาศของไทยในปัจจุบันยังมืดมน/สับสน แต่สามารถหาทางออกได้

"ตรุษจีนปีนี้คึกคักมากกว่าปีก่อนเล็กน้อย บรรยากาศการใช้จ่ายในต่างจังหวัดยังเหมือนปกติ ยกเว้นในกรุงเทพฯที่อาจไม่คึกคักโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะมีการปิดกรุงเทพฯ แต่ยืนยันว่า ปัญหาการเมืองยังไม่ทำร้ายการใช้จ่ายของประชาชนมากเกินไป และความเสียหายจากการปิดกรุงเทพฯจะอยู่ที่วันละ 700-1,000 ล้านบาท หรือ ส่วนความเสียหายจากการท่องเที่ยวจะอยู่ที่อาทิตย์ละ 5,000-7,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หากสถานการณ์การเมืองยังไม่รุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ราว 3-4% เช่นเดิม"นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% ว่า เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะค่าเงินบาทยังทรงๆ อยู่ที่ไม่เกิน 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงว่ายังไม่มีเงินไหลออกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตลาดหุ้นลดลงไม่มาก หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชื่อว่า ในระหว่างการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือนนี้จะไม่ทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดลง ยกเว้นหากเกิดผลทางจิตวิทยาในเชิงลบของนักท่องเที่ย และนักลงทุนต่างชาติ เช่น สถานทูตหลายประเทศประกาศเตือนนักท่องเที่ยวมาไทยมากขึ้น หรือเพิ่มระดับความรุนแรงของการเดินทางมาไทย

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 16-21 ม.ค.57


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ