ทิศทางของเงินบาทวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนจะรอฟังผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคากลางสหรัฐ(FED) ว่าจะมีมติในเรื่อง QE ออกมาอย่างไร
"วันนี้คาดว่าเงินบาทคงทรงตัว นักลงทุนรอผลประชุม FOMC ซึ่งบ้านเราคงจะทราบในวันศุกร์นี้" นักบริหารเงินกล่าว
ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศที่สำคัญสัปดาห์นี้ คือ จับตาการเลือกตั้งทั่วประเทศที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. หลังจากผลหารือระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วานนี้มีมติจัดเลือกตั้งตามกำหนดเดิม
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 32.8800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (28 ม.ค.) อยู่ที่ 2.17784% และ THAI BAHT FIX 6M (28 ม.ค.) อยู่ที่ 2.10245%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.22 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 103.12/14 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3655 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3638/3642 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.วันนี้อยู่ที่ 32.8960 บาท/ดอลลาร์
- หอการค้าญี่ปุ่นยอมรับหากศึกการเมืองยืดเยื้อ กระทบท่องเที่ยว ลงทุนสาธารณูปโภค อาจทบทวนการลงทุนในไทย แม้ปัจจุบันยังไม่ย้ายฐานหนี หอการค้าห่วงป่วนลากยาวถึงไตรมาส 2 กดดันเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 3% ส่งออกต่ำเป้าแน่
- นักวิเคราะห์คาดเฟดลดคิวอีลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้านคลังยูโรโซนเชื่อปัญหาในตลาดเกิดใหม่ไม่ลุกลาม ขณะที่ค่าเงินเอเชียฟื้นรับข่าวอินเดียขึ้นดอกเบี้ย สวนทางเงินบาททรงตัวกังวลการเมืองหวั่นเลือกตั้ง 2 ก.พ.เหตุรุนแรง
- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด โดยค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุน หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 80.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 135.31 จุด เมื่อเวลา 09.42 น. ตามเวลาโตเกียว หลังจากที่ธนาคารกลางตุรกีประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักทุกประเภทในการประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะหนุนค่าเงินลีราให้ฟื้นตัวขึ้น โดยถือเป็นการพลิกผันนโยบายที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งมุ่งเน้นในการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนพ.ย.56 ปรับตัวสูงขึ้น 13.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนก.พ.49 หรือในรอบเกือบ 8 ปี บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัว
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเปิดฉากการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยตลาดคาดว่าเฟดจะลดการซื้อสินทรัพย์ลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในรอบนี้ เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวปานกลาง และภาวะตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟดมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับดอลลาร์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 97.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 107.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 8 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,660 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,261.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 0.87 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้