ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบกับการค้าชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะการชุมนุมส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งห่างจากโรงงานผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก ที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เขตชายแดน
"ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างไทยและกัมพูชาที่ยังไม่มีความแน่นอนนั้น มองว่า ด้านเศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ก็เป็นผลดีกับการส่งออก เพราะต่างชาติจะมองว่าราคาสินค้าไทยมีราคาถูกลง ส่วนภาคการขนส่ง ยอมรับอาจมีปัญหาบ้าง จากปัญหาเส้นทางที่ยังไม่สะดวก" นายวัชรัศมิ์ กล่าว
นอกจากนี้ เห็นว่าหากรัฐบาลมีการปรับปรุงกฏระเบียบด้านศุลกากร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม โดยเฉพาะเส้นทางในการขนส่งสินค้าหลัก จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าขายระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มขึ้นได้ถึงปีละ 1,150 ล้านบาท
ด้านนางอรนุช ผการัตน์ ประธานสมาคมผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา กล่าวว่า ปัญหาการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบการค้าการลงทุนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันที่เพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทย ยังคงเข้าไปขยายการลงทุนในกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ พร้อมกับยังเห็นโอกาสในการลงทุน แม้สถานการณ์การเมืองในประเทศของทั้งสองประเทศจะมีปัญหาก็ตาม เพราะไม่ใช้ปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ