นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่า หากการชุมนุมทางการเมืองเกิดเหตุรุนแรงก็ยอมรับว่าคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมากแน่นอน แต่หากไม่รุนแรงแต่ยืดเยื้อก็ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ซึ่ง ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 57 จะเติบโตใกล้เคียง 3% อยู่บนพื้นฐานที่การใช้จ่ายและการลงทุนสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี หลังจากปี 56 คาดว่าจะเติบโตต่ำกว่า 3%
อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายเร็วกว่าที่คาดไว้ การขยายตัวของเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น หากการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ไม่กี่เดือนก็เชื่อว่าปัจจัยต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจก็จะกลับมาเป็นปกติ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง แต่หากยืดเยื้อบุญเก่าที่มีก็คงหมด โดยเฉพาะการลงทุน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยอมรับว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่คงเกิดได้ยาก และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
ทั้งนี้ ธปท.ระบุว่า เศรษฐกิจเดือน ธ.ค.56 ชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรรมและการใช้จ่ายภาคเอกชน เนื่องจากภาคธุรกิจและครัวเรือนยังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ในส่วนของอุปสงค์จากต่างประเทศ ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลงจากผลของกฎหมายด้านการท่องเที่ยวของจีนเป็นสาคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นบ้างตามทิศทาง การฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อชะลอลงตามราคาอาหารสด ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจาก การเกินดุลการค้า ดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติ และการลงทุน ในตราสารหนี้ต่างประเทศของนักลงทุนไทย โดยรวมดุลการชาระเงินขาดดุลเล็กน้อย
กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค.โดยรวมชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 6.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการผลิตที่ลดลงของยานยนต์ที่ได้เร่งผลิตไปมากในปีก่อน ประกอบกับคำสั่งซื้อต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพอ ที่จะชดเชยคำสั่งซื้อในประเทศที่ลดลง เบียร์ที่ผลิตลดลงตามความต้องการ ส่วนหนึ่งจากราคาที่เพิ่มขึ้นตามการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในเดือนกันยายน ประกอบกับสต็อกยังอยู่ในระดับสูง และ กุ้งแช่แข็งที่ยังประสบปัญหาโรคระบาด
สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 8.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่เร่งลงทุนไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับมีผู้ประกอบการบางส่วนเลื่อนการลงทุนออกไปเพื่อรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้การลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์หดตัว ในขณะที่การลงทุนก่อสร้างชะลอลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนที่หดตัว ทำให้การนำเข้าสินค้าทุน ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมทั้งวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงหดตัว โดย การนำเข้ามีมูลค่า 16,280 ล้านดอลลาร์ สรอ. หดตัวร้อยละ 9.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางทรงตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากประชาชนยังระมัดระวัง การใช้จ่าย โดยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 0.2 ตาม การใช้จ่ายในสินค้าคงทนโดยเฉพาะยานยนต์ที่หดตัวจากฐานที่สูงในปีก่อนและความต้องการซื้อยานยนต์ใหม่ ที่น้อยลง ขณะที่การใช้จ่ายสินค้าไม่คงทนขยายตัวชะลอลงในบางหมวด อาทิ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม
ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลงจากการบังคับใช้กฎหมายด้านการท่องเที่ยวของจีนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 รวมถึงได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนนี้มีจำนวน 2.6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 6.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 11.9 ในเดือนก่อน
ส่วนเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้นส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอย่างช้าๆ โดยการส่งออกสินค้ามีมูลค่า 18,277 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 1.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวและยางพารา รวมทั้งการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าในบางหมวดยังหดตัวเนื่องจากเผชิญข้อจำกัดในการผลิต อาทิ สินค้าประมงจากโรคระบาดในกุ้ง และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จากข้อจำกัด ในการเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นเพื่อผลิตสินค้าที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค
รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 6.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน จากผลด้านราคาเป็นสาคัญ โดยเฉพาะราคาปาล์มน้ำมันและมันสำปะหลังปรับสูงขึ้นตามความต้องการในการผลิตพลังงานทดแทน รวมทั้งราคากุ้งและปศุสัตว์ที่ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ อย่างไรก็ดี ราคาข้าวยังคงลดลงตามราคาในตลาดโลกเนื่องจากผลผลิตของประเทศผู้ผลิตสำคัญเพิ่มขึ้น ส่วนราคายางพาราปรับลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ในขณะที่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักยังไม่มากพอที่จะทำให้ราคาปรับขึ้นได้ สำหรับผลผลิตทางการเกษตรขยายตัวตามผลผลิตข้าวที่ปริมาณน้ำและภูมิอากาศเอื้ออำนวย และผลผลิตยางพาราที่เพิ่มขึ้นตามการขยายพื้นที่เพาะปลูกในช่วงก่อนหน้า
ภาครัฐใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน จากการเร่งโอนเงินให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ สำหรับรายได้นำส่งลดลงตามภาษีสรรพสามิตและภาษีฐานการค้าระหว่างประเทศ สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง ประกอบกับได้รับผลของฐานที่สูงในเดือนเดียวกัน ปีก่อนที่มีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3G รายจ่ายที่มากกว่ารายได้ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 118 พันล้านบาท
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 1.67 ตามราคาอาหารสดที่ผลผลิตผักและผลไม้ออกสู่ตลาดมาก ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากการเกินดุลการค้า ขณะที่ ดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติ และการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของนักลงทุนไทย ในภาพรวมดุลการชำระเงินขาดดุลเล็กน้อย
ธปท.ระบุว่า ทั้งปี 56 ภาวะเศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงตามการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว หลังจากที่เร่งใช้จ่ายไปมากในปีก่อน ประกอบกับผู้ประกอบการบางส่วนชะลอเลื่อนการลงทุนออกไปเพื่อประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ เนื่องจากบางอุตสาหกรรมประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ รวมถึงมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตจึงไม่สามารถผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้มากนัก ภาครัฐมีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลงจากปีก่อนตามการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ต่ำกว่าปกติ ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวสูงและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปีก่อน
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อชะลอลงตามราคาพลังงานและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ส่วนใหญ่เป็นผลจากการนำเข้าทองคำ และการส่งกลับกำไรและเงินปันผลไปต่างประเทศ ส่วนดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลจากการกู้ยืมเงินต่างประเทศของสถาบัน รับฝากเงินและการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ โดยรวมทำให้ดุลการชำระเงินขาดดุล
"เศรษฐกิจทั้งปี 56 ขยายตัวชะลอลง ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอลงหลังจากเร่งการใช้จ่ายในปีก่อนหน้า ประกอบกับผู้ประกอบการบางส่วนชะลอการลงทุนออกไป เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ขณะที่การส่งออกของไทยฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการผลิต เพื่อส่งออกที่ไม่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกมากนัก ส่วนการเบิกจ่ายภาครัฐยอมรับว่ามีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยลง เพราะการเบิกจ่ายงบลงทุนทำได้ต่ำกว่าปกติ และการท่องเที่ยวขยายตัวสูง เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในปี 56 โดยทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยว 26.7 ล้านคนสูงสุดเป็นประวัติการณ์"นายดอน กล่าวสรุป