(เพิ่มเติม) ผู้ว่า ธปท.คาด GDP ปี 56 โตไม่ถึง 3% แรงส่งปัจจัยบวกลดลง มองปี 57 เผชิญความท้าทายใน-ตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 31, 2014 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวในงานสัมมนา"Thailand’s Economic Outlook 2014"ว่า เศรษฐกิจไทยปี 56 จะเติบโตไม่ถึง 3% เนื่องจากปัจจัยบวกที่เคยคาดว่าจะเข้ามาชดเชยและกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มมีแรงส่งลดลง เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และการใช้จ่ายของภาครัฐล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด รวมถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนเริ่มลดลง และได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงปลายปี 56 ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยช่วงครึ่งปีหลังของปี 56 ขยายตัวต่ำกว่าครึ่งปีแรกได้อย่างชัดเจน

สำหรับปี 57 ประเทศไทยนอกจากจะต้องเผชิญกับปัจจัยที่มาจากต่างประเทศที่มีความท้าทายสูง ยังต้องเผชิญกับปัญหาภายในประเทศ ในเรื่องของการเมืองยืดเยื้อ ซึ่งยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ส่งผลให้บทบาทของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ทำได้ไม่เต็มที่ แม้งบประมาณปี 57 จะสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติแต่กระบวนการจัดทำงบประมาณในปี 58 มีแนวโน้มล่าช้าออกไป ประกอบกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทบางโครงการจำเป็นต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน ส่งผลให้การลงทุนของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวจะต้องถูกเลื่อนออกไปด้วย

"แม้ว่าแรงส่งของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอาจจะดุไม่สดใสมากนัก แต่ยังถือได้ว่าประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่เข้มแข็งและยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงความผันผวนของตลาดเงินโลกได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง"นายประสาร กล่าว

นายประสาร กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีความน่าเชื่อถือในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เพราะมีภูมิคุ้มกันที่ดี 4 ประการ ได้แก่ 1.ไม่มีปัญหาเรื้อรังของอัตราเงินเฟ้อที่สูงหรือไม่มีปัญหาของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สามารถใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยมาช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างดี 2.ไทยมีระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่น จึงทำให้สามารถช่วยปรับสมดุลให้กับเศรษฐกิจได้และไม่ทำให้เป็นจุดสะสมความเปราะบางของเศรษฐกิจ

3.ประเทศไทยยังมีทุนสำรองทางการเงินอยู่ในระดับสูง และถือว่าอยู่ในลำดับต้นๆเมื่อเทียบกับสัดส่วนจีดีพี และ 4.ภาคธุรกิจเอกชนโดยรวมยังมีฐานะที่มั่นคงประกอบกับระบบสถาบันการเงินและธนาคารมีความเข้มแข็ง ซี่งได้มีการดูแลเงินกองทุนมาเผื่อไว้ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าระบบสถาบันการเงินจะทำหน้าที่ในการหล่อลื่นระบบเศรษฐกิจได้เป็นปกติ ด้วยปัจจัยทั้ง 4 ประการนี้จึงถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความแข็งแกร่งและเป็นภูมิคุ้มกันที่ดี

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเอกชนถือว่าเป็นภาคธุรกิจที่มีความเข้มแข็งและมีบทบาทเป็นผู้นำ สามารถหยิบยกประเด็นสำคัญให้กับรัฐบาลใหม่เพื่อให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกับการสร้างกลไกธรรมาภิบาลของประเทศ โดยในส่วนของ ธปท.ขอย้ำความมั่นใจว่า ธปท.มีเครื่องมือที่เพียงพอในการรักษาเสถีรภาพตลาดเงินและสถาบันการเงินให้เป็นกลไกเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเหมาะสม และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านในช่วงที่มีความท้าทายไปได้ด้วยดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ