ส.ผู้ส่งออกข้าว แนะรัฐทบทวน-ยกเลิกรับจำนำ ห่วงสร้างปัญหาการแข่งขันในตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 5, 2014 16:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หากต้องการให้สถานการณ์ค้าข้าวของไทยกลับมาดีขึ้น รัฐบาลจะต้องบริหารให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยควรจะทบทวนหรือยกเลิกมาตรการรับจำนำข้าว และหามาตรการใหม่ๆ มาช่วยเหลือชาวนาแทน เพราะปีนี้การแข่งขันในตลาดค้าข้าวของโลกค่อนข้างรุนแรง ดังนั้น หากใช้นโยบายจำนำต่อไปอีกอาจทำให้ราคาข้าวของไทยในตลาดโลกมีปัญหา

ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาการกำหนดนโยบายราคาข้าวสูง สร้างปัญหาต่อราคาข้าวไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะข้าวขาว 5% ที่ราคาตลาดโลกลดลงจากเดิมเคยอยู่ที่กว่า 600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ลงมาเหลือเพียง 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งในปีนี้ก็จะการแข่งขันเรื่องราคาอย่างต่อเนื่อง ก็จะยิ่งทำให้ราคาข้าวไทยประสบปัญหามากขึ้นอีก ขณะนี้ในหลายประเทศยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับราคาข้าวไทย เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีสต๊อกข้าวค่อนข้างสูงมาก ทำให้ผู้ค้าเริ่มตั้งตำถามถึงคุณภาพข้าวที่มีการเก็บไว้ในสต็อกค่อนข้างนาน และยังต้องติดตามทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวได้

สำหรับราคาข้าวในตลาดโลกปัจจุบัน ราคาข้าวของไทยยังสูงกว่าคู่แข่ง โดยข้าวขาว 5% อยู่ที่ 400-450 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน สูงกว่าข้าวเวียดนาม ซึ่งอยู่ที่ 395 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน แต่ราคาถูกกว่าข้าวกัมพูชา ซึ่งอยู่ที่ 450-460 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ส่วนข้าวหอมมะลิของไทยอยู่ที่ 1,000-1,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน สูงกว่าข้าวหอมมะลิเวียดนาม ซึ่งอยู่ที่ 555-565 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และข้าวหอมมะลิกัมพูชา อยู่ที่ 895-905 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน แต่ถูกกว่าข้าวหอมมะลิอินเดีย ซึ่งอยู่ที่ 1,515-1,525 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่า ในปี 57 ไทยจะส่งออกข้าวได้ในปริมาณราว 7.5 ล้านตัน มูลค่าราว 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 140,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% จากปีที่ผ่านมา แต่ต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8 ล้านตัน มูลค่า 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 144,000 ล้านบาท และเทียบกับปี 56 มีปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 6.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 133,852 ล้านบาท

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อการส่งออกข้าว คือ รัฐบาลต้องการระบายข้าวในสต็อก และอาจทบทวนโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งราคาข้าวของไทยอยู่ในระดับที่ไม่ห่างจากคู่แข่งมาก และยังมีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงที่ส่งผลดีต่อการส่งออก

ขณะที่ปัจจัยลบ คือ สต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยมีปริมาณมากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า รวมทั้งเวียดนามและอินเดียยังแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ ประเทศผู้ส่งออกรายใหม่ อย่างพม่าและกัมพูชา หันมาเน้นการส่งออกมากขึ้น

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า สมาคมฯ อาจทบทวนปริมาณการส่งออกข้าวใหม่อีกครั้งในอีก 6 เดือนข้าวหน้า โดยต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่และสถานการณ์ค่าเงินบาท รวมทั้งปริมาณการผลิตของประเทศคู่แข่งด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ