ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าแนวทางการเปิดตลาด การลดภาษี มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งแนวทางจะต้องเปิดเสรีมากกว่าที่อาเซียนและคู่เจรจาได้เปิดเสรีกันภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี(FTA) ที่ได้ทำกันมาแล้ว และยังได้หารือกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการศุลกากร การอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมถึงมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งคณะทำงานในด้านเหล่านี้จะประชุมหารือกันต่อไป
ส่วนการเปิดเสรีด้านการค้าบริการ ได้หารือเรื่องโครงสร้างและองค์ประกอบของการเปิดเสรีการค้าบริการ สาขาที่ต้องการให้ผูกพันเปิดตลาด ขณะที่ด้านการลงทุนได้หารือรูปแบบการเปิดตลาดการลงทุน และองค์ประกอบของการเปิดเสรีด้านการ นอกจากนี้ ยังได้หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อการเปิดเสรี ทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา นโยบายการแข่งขัน และกลไกการระงับข้อพิพาท ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลในเรื่องนี้เพิ่มเติม และให้เริ่มหารือกันในการประชุมครั้งต่อไปที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ในเดือนเม.ย.57
นายสมเกียรติ กล่าวว่า อาเซียนได้ตั้งเป้าที่จะเชื่อมโยงเศรษฐกิจของอาเซียนเข้ากับประเทศนอกภูมิภาค จึงได้ผลักดันการเจรจา RCEP ซึ่งเป็นการเปิดเสรีการค้าทั้งในเชิงกว้าง เชิงลึก ต่อยอดจาก FTA ที่อาเซียนได้ทำกับทั้ง 6 ประเทศอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นตลาดการค้าที่มีประชากรรวมกันมากที่สุดในโลก
ปัจจุบัน การค้าขายของไทยกับกลุ่มอาร์เซพประมาณ 255,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 56% ของยอดรวมการค้าไทย หากมีการเปิดเสรี จะยิ่งทำให้ไทยมีโอกาสขยายการค้าไปยังประเทศในกลุ่มได้เพิ่มขึ้น