ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม.วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับว่าเงินในส่วนนี้ขอให้การดำเนินการแยกแยะให้ชัดเจนว่าเป็นเงินของโครงการตั้งแต่เดือน ก.ย.556 เนื่องจากเกรงว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ไม่กล้าจ่ายเพราะกลัวจะเป็นความผิด
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวในเดือน ต.ค.56 ได้ดำเนินการชำระให้เกษตรกรไปหมดแล้ว ส่วนเดือน พ.ย.56 ชำระให้เกษตรกรไปแล้ว 61% เหลืออีก 39% รวมทั้งเดือน ธ.ค.56 และ ม.ค.56 บ้างประปราย คิดเป็นยอดรวมที่ยังไม่ได้ชำระตั้งแต่รอบเดือน พ.ย.56 เป็นต้นมาประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนและเกษตรกร ซึ่งยืนยันว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลดูแลเป็นอย่างดี ไม่ได้ทอดทิ้ง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของการบริหาร แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเท่านั้น
ทั้งนี้ ตนเองได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดูแลอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความกังวลว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องจะมีความผิดทำให้การดำเนินการติดขัด แต่ก็ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตัวเอง และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่าขัดขวางการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ สถาบันการเงิน เพราะถึงแม้กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)จะไปฟ้องร้องก็คงจะไม่ทำให้การชำระเงินให้แก่เกษตรกรรวดเร็วขึ้น
สำหรับกรณีที่กล่าวหาว่ารัฐบาลโกงชาวนา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าคนฟังจะมีวิจารณญาณที่จะรับฟังข้อมูลอย่างรอบคอบ เรื่องนี้มีกระบวนการการตรวจสอบอยู่แล้วว่าทุจริตจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เป็นเวลานี้คือเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศ ขณะนี้เชื่อว่าแหล่งเงินกู้ที่จะใช้สำหรับโครงการนี้จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
"จะเร่งดำเนินการ ไม่ย่อท้อ ซึ่งสถานะของรัฐบาลยังดีอยู่ ดูได้จากฐานะการคลัง ไม่ได้เป็นอย่างที่มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลถังแตก"นายกรัฐมนตรี กล่าว