นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจในปี 56 เติบโตเพียง 2.9% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหมายมาก โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายที่มีการชุมนุมทางการเมือง เศรษฐกิจโตได้เพียง 0.6% เท่านั้น เพราะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมากจากการชุมนุมทางการเมืองคิดเป็นแสนล้านบาทตามที่ได้เคยเตือนแล้ว โดยจะส่งผลกระทบต่อมาถึงปี 57 ด้วย ซึ่งได้มีการคาดประมาณการทางเศรษฐกิจลดลงแล้วจากเดิมที่ 5% เหลือไม่ถึง 3% และปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนกันอย่างมากกับปัญหาทางเศรษฐกิจ และความลำบากที่เกิดจากการชุมนุม และถ้าหากยังตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะจะไม่สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในโครงการต่างๆได้
อีกทั้งการลงทุนจากต่างประเทศจะหยุดชะงัก เพราะนักลงทุนต่างประเทศไม่แน่ใจทิศทางการเมืองของไทย รวมถึงการบริโภคของประชาชนก็จะชะลอตัวกันหมด ใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองเพราะไม่มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
"อยากขอให้ กกต.เร่งจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ เพื่อให้สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว และไม่อยากให้เอาเรื่องการชำระเงินจำนำข้าวของชาวนา มาเป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง เพราะชาวนาเดือดร้อนอย่างมาก ขออย่าได้กดดันหรือไปแห่ถอนเงินธนาคารรัฐและให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งชำระเงินให้กับชาวนาโดยเร็ว ซึ่งเมื่อชาวนาได้รับการชำระเงินแล้ว ก็จะจับจ่ายใช้สอยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง และอยากให้หาทางออกที่จะเลิกการชุมนุม เพื่อประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปได้"นายพิชัยกล่าว