นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปีงบประมาณที่อาจล่าช้า เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งยังไม่เรียบร้อย และทำให้ยังไม่สามารถจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลใหม่ได้ ขณะที่รัฐบาลเองไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้อย่างคล่องตัวเนื่องจากเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญนั้น ยอมรับว่าภาคอุตสาหกรรมมีความเป็นห่วงงบประมาณ ซึ่งปกติเวลานี้ควรจะต้องเริ่มมีการจัดทำแล้ว ซึ่งในส่วนของงบประมาณรายจ่ายประจำในส่วนของเงินเดือนยังเดินหน้าต่อไปได้ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50-60% ของงบประมาณทั้งหมด
แต่ที่จะกระทบคืองบลงทุนที่จะดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหายไป เศรษฐกิจของประเทศก็อาจจะสะดุด นักลงทุนต่างชาติที่วางแผนว่าจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็อาจจะต้องปรับแผนเพราะไม่มั่นใจว่าบรรยากาศต่างๆ โดยเฉพาะการเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ ซึ่งอาจจะกระทบถึงการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีหน้าของเราอย่างแน่นอน
"ตอนนี้ความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มหายไปแล้ว ผู้ซื้อไม่มั่นใจว่าเราจะส่งสินค้าได้ตรงตามเวลาหรือไม่ และเชื่อว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ความเชื่อมั่นก็จะหายไปเรื่อยๆ ต้องให้องค์กรที่เกี่ยวข้องช่วยกันประคับประคองทำให้บรรยากาศดี เข้าสู่ร่องรอยของกฎระเบียบให้มากที่สุด สังคมของคนทั้งประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยหลักของกฎระเบียบที่ถูกต้อง มั่นคง ชัดเจน และยุติธรรม"นายพยุงศักดิ์ กล่าว
สำหรับมาตรการระยะสั้นที่ส.อ.ท.จะนำมาใช้เพื่อดูแลภาคเอกชน คือ การเพิ่มผลิตภาพ พัฒนาการผลิต การลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการรักษาตลาดและหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ