กรมการค้าต่างประเทศขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การนำเข้าข้าวของอินโดนีเซียโดยปกติแล้วจะนำเข้าโดย BULOG ซึ่งเป็นหน่วยงานมีอำนาจหน้าที่ในการนำเข้าและส่งออกข้าวของอินโดนีเซีย เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศ และรักษาระดับราคาข้าวในประเทศ
โดยรัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกระเบียบการนำเข้า โดยกำหนดให้มีการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศใน 2 ลักษณะ คือ 1.การนำเข้าข้าวเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาสำหรับประชาชนที่ยากจนและความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยกำหนดเงื่อนไขให้หน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอินโดนีเซีย(BULOG) จะเป็นผู้นำเข้าข้าวได้เท่านั้น และ 2.การนำเข้าข้าวชนิดพิเศษ โดยผู้นำเข้าต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงเกษตรและกระทรวงการค้าอินโดนีเซียเท่านั้น ได้แก่ การนำเข้าข้าวหอมมะลิไทย, ข้าวเมล็ดสั้น, ข้าวบาสมาติและข้าวเหนียว เป็นต้น
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนใหญ่อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวขาวคุณภาพปานกลางจากไทย โดยการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ อย่างไรก็ตามในปี 2556 จนถึงปัจจุบัน อินโดนีเซียยังไม่มีการซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย เนื่องจากผลผลิตข้าวของอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้นและมีสต็อกข้าวเพียงพอ
สำหรับข้าวไทยที่ส่งออกไปอินโดนีเซียเป็นข้าวชนิดพิเศษในช่วงดังกล่าว เช่น ข้าวหอมมะลิ (ประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน) ข้าวเหนียว (ประมาณ 870 เหรียญสหรัฐต่อตัน) ปลายข้าวเหนียว (ประมาณ 558 เหรียญสหรัฐต่อตัน) ซึ่งเป็นข้าวที่มีราคาค่อนข้างสูง และประเทศอินโดนีเซียไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ จึงไม่เป็นการทุ่มตลาดหรือแย่งตลาดภายในประเทศของชาวนาอินโดนีเซียอย่างที่เป็นข่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลโดยอิงราคาตลาดเป็นเกณฑ์ และกำหนดราคาขายที่เหมาะสมตามคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยที่ดีกว่าคู่แข่ง โดยในปัจจุบันราคาข้าวไทยเฉลี่ยประมาณ 440 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งสูงกว่าประเทศคู่แข่งอย่าง เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันและ 419 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันตามลำดับ
"ขอยืนยันว่า ไทยยังคงรักษาระดับราคาข้าวไทยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพมาตรฐานที่สูงกว่าคู่แข่งและยอมรับในตลาดโลก ดังนั้นข่าวที่กล่าวมาจึงไม่ตรงกับความเป็นจริง น่าจะเป็นเพียงการสร้างกระแสที่มุ่งทำลายความเชื่อมั่นในข้าวไทยเท่านั้น" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ