"แม้ว่าจะมีลูกค้าต่างชาติเดินทางมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าลดลง ก็จะไม่กระทบต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในปีนี้ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายขยายตัว 5% จากปีก่อน หากไม่มีการปิดสนามบิน ท่าเรือ และการขนส่งไม่หยุดชะงัก ผู้ผลิตยังสามารถผลิตและส่งออกสินค้าตามเวลาส่งมอบ" รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
พร้อมระบุว่า แผนการกระตุ้นส่งออกของกรมฯ ในปีนี้ จะเร่งจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดแบบเคาะประตูบ้าน โดยจะเข้าไปบุกตลาดต่างประเทศด้วยรูปแบบการนำคณะผู้ส่งออกไทยไปเจาะตลาด การขายสินค้าในคอนเซ็ปต์เดียวกันทั้งหมด เช่น การเจาะตลาดกลุ่มโรงแรม ก็จะพาธุรกิจที่มีสินค้าเกี่ยวกับโรงแรมทั้งหมดเข้าไปเจาะตลาด หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ก็จะพาสินค้าที่จำเป็นต่อผู้ส่งออกอายุออกไปทำตลาดพร้อมกัน เป็นต้น
นางดวงกมล กล่าวต่อถึงการจัดงานแสดงสินค้าและเฟอร์นิเจอร์ TIFF 2014 ว่า ยังคงจัดตามกำหนดเดิมในวันที่ 12-16 มี.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยเบื้องต้นมีผู้ชมงานจากต่างประเทศลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ประมาณ 600 คน ตั้งเป้าหมายผู้ชมงานทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอด 5 วัน ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท คาดว่าวันเจรจาธุรกิจจะมียอดขายประมาณ 520 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อขายทันทีประมาณ 60 ล้านบาท ซื้อขายภายใน 1 ปีอีกประมาณ 460 ล้านบาท ส่วนวันจำหน่ายปลีกคาดว่าจะมีการซื้อขายประมาณ 30 ล้านบาท
ด้านนายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ลูกค้าต่างชาติได้สอบถามถึงสถานการณ์การเมืองไทยเข้ามา โดยต้องการคำยืนยันว่าไทยจะยงจัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้หรือไม่ แต่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนใหญ่ยังตอบรับและยืนยันเข้าร่วมงานในปีนี้
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปัญหาการเมืองจะไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เพราะหากผู้ประกอบการไทยยังสามารถผลิตสินค้าและส่งออกมอบได้ทันตามกำหนดระยะเวลา ก็ไม่มีผลกระทบ