ทั้งนี้ ในช่วงกลางสัปดาห์เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 28-29 มกราคม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของเฟดเห็นพ้องกันโดยทั่วไปที่จะยังคงปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE โดยเจ้าหนาที่บางรายเล็งที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเร็วๆนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายขนานใหญ่ต่อไป โดยมีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มฐานเงินที่อัตราประมาณ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี นอกจากนี้ บีโอเจยังตัดสินใจที่จะขยายโครงการเงินสนับสนุนสินเชื่อพิเศษออกไปอีก 1 ปี เพื่อกระตุ้นให้ธนาคารต่างๆ เพิ่มการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจที่มีศักยภาพในการขยายตัว เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยอาจส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
“หากพิจารณาจากราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ $4.3/Oz หรือคิดเป็น 0.33% มาซื้อขายที่ระดับ $1,323.00/Oz (ณ เวลา 10.45 น. วันที่ 24/02/57) โดยมีจุด ต่ำสุดที่ $1,307.50/Oz และมีจุดสูงสุดที่ $1,331.97/Oz โดยราคาทองคำราคาทองคำทรงตัว แม้ว่าจะถูกกดดันจากธนาคารกลางสเปน ที่เผยยอดหนี้สินสาธารณะของสเปนแตะที่ 9.61555 แสนยูโรในปี 2556 คิดเป็นสัดส่วน 94.02% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537" นายโสฬส กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ทางโกลเบล็ก แนะนำให้เล่นเก็งกำไรในกรอบที่ $1,285-1,345/Oz หรือ 19,840-20,770 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 32.57 บาท/$) โดยอาจปรับตัวขึ้นต่อได้ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น หากราคาสามารถสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน/$1,345/Oz ได้อย่างแข็งแกร่งและไม่หลุดแนวรับที่ $1,305/Oz เพราะยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาณ Golden Cross ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วัน