"พิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 3/2554 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่มีคำวินิจฉัย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 3" คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ระบุ
คดีนี้มีสมาคมฯ และชาวบ้านเป็นผู้ฟ้องที่ 1-290 ส่วนผู้ถูกฟ้องมีผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 1, คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาลและเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 2, ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ 3 และบริษัท บางสะพานน้อย ไบโอแมส ที่ 4 โดยคำฟ้องสรุปได้ว่า หลังจากที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรกมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่อนุญาตให้บริษัท บางสะพานน้อยฯ ก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า บริษัทฯ จึงได้ไปยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เสนอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาลและเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมาพิจารณาคำอุทธรณ์ และมีมติให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ไม่อนุญาตให้บริษัทก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า โดยไม่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาและไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชนในพื้นที่
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว โครงการนี้คงต้องเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ แต่เท่าที่รู้ทางผู้ประกอบการคงไม่สนใจที่จะดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปแล้ว และในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ศาลปกครองกลาง ยังนัดฟังคำพิพากษาในอีกคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยชาวบ้านได้ยื่นฟ้องนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรกที่เซ็นใบอนุญาตให้มีการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ