ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจในเดือน ม.ค.57 หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าตามภาวะการส่งออก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองมากขึ้น ซึ่งในกรณีที่การเมืองยุติลงและสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3/57 ก็คาดว่าเศรษฐกิจอาจจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3% เล็กน้อย แต่กรณีเลวร้ายคือมีรัฐบาลใหม่ภายในไตรมาส 4/57 ก็จะเติบโตต่ำกว่านั้น อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึงปลายปีก็จะเลยสมมติฐานที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ก็จะต้องรอการประเมินปรับประมาณการเศรษฐกิจในการประชุม กนง.
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธปท.เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจเดือนม.ค.โดยรวมหดตัวจากเดือนก่อนตามภาวะการส่งออกที่หดตัว 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าที่ 17,656 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากการเมืองในประเทศ โดยพบว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนม.ค.ขยายตัวเพียง 0.1% หรือแทบไม่ขยายตัว คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยว 1.3 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ผ่านสุวรรณภูมิและดอนเมืองหดตัวถึง 6% ขณะที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคยังคงขยายตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางส่วนได้เปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการชุมนุม เป็นผลให้อัตราเข้าพักโรงแรมในเดือนม.ค.อยู่ที่ 60.8% ลดลงจาก 69.6% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอัตราการเข้าพักในเขตภาคกลางลดลงเป็นหลัก เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง ประกอบกับพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมทั้งการชุมนุมทางการเมืองใน อ.หาดใหญ่ ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อนักท่องเที่ยวด้วย
การลงทุนในเดือนม.ค.ยังหดตัว 8.6% ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 8.2% เนื่องจากผู้ประกอบการบางส่วนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ระดับ 45.4 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจใน 3 เดือนข้างหน้าที่อยู่ในระดับ 52 จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.7
ขณะเดียวกัน การอุปโภคและบริโภคภาคเอกชนยังหดตัว 1.5% สอดคล้องกับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังระมัดระวังการใช้จ่าย โดยสินเชื่อรวมในเดือนม.ค.ขยายตัวรวม 9.2% ซึ่งเป็นการปรับลดลงต่ำกว่าตัวเลข 2 หลักในรอบ 3 ปี โดยสินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัว 9.9% สินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัว 8.4% ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอ โดยหดตัวที่ 6.4% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการผลิตที่ลดลงของภาคยานยนต์ที่เร่งตัวในช่วงปีก่อนหน้า
นายดอน กล่าวว่า ที่ประชุม กนง.วันที่ 12 มี.ค.นี้ คงต้องมีการทบทวนประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง แต่ส่วนตัวมองว่าไตรมาส 1 เศรษฐกิจไทยยังคงซบเซาต่อเนื่องจากสิ้นปี 56 ส่วนทั้งปี 57 จะปรับประมาณการลดลงจากปัจจุบันที่คาดว่าจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3% หรือไม่ขึ้นอยุ่กับสมมติฐาน หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้เศรษฐกิจก็จะเติบโตได้ตามคาด แต่หากตั้งรัฐบาลยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 4 ก็คาดว่าเศรษฐกิจจะโตได้ต่ำกว่าปีก่อนที่โตได้ 2.9% แต่หากการเมืองยืดเยื้อตลอดทั้งปีก็จะเกินกว่าสมมติฐานที่ ธปท.ประเมินไว้ ขณะที่คาดว่าการส่งออกไทยในปีนี้จะเติบโตเหลือ 5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 7%
ส่วนเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะถดถอยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจของ กนง. แต่โดยหลักการแล้วภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้น เศรษฐกิจจะต้องติดลบต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส ซึ่งคงเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยจะติดลบหรือไม่