ทั้งนี้ คาดว่าจะมียอดบริจาคเงินครบ 1 พันล้านบาท ภายในวันที่ 10 มี.ค.นี้ จากเป้าหมายทั้งหมด 2 หมื่นล้านบาท โดย ธ.ก.ส. จะเร่งทยอยจ่ายเงินให้ชาวนาทันทีตามลำดับการขึ้นทะเบียนใบประทวนของชาวนากับสาขาของธนาคารทั่วประเทศ
"ยืนยันว่าการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนาครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ธนาคาร ซึ่งไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของ ธ.ก.ส. แน่นอน เนื่องจากหลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าว และส่งเงินคืนให้ธนาคารเดือนละ 8 พันล้านบาท ถึง 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงการกู้เงินของกระทรวงการคลัง และการจัดสรรงบประมาณเพื่อมาชดเชยการดำเนินการดังกล่าวจากรัฐบาล ซึ่งวงเงินทั้งหมดจะใช้จ่ายคืนให้ผู้ส่งเงินสบทบเงินเข้ากองทุนฯ ในแบบที่ 2 และ 3 เมื่อครบกำหนดเวลาสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธ.ค.57" นายลักษณ์ กล่าว
หลังจากนี้อีก 2-3 สัปดาห์ จะมีการประเมินสถานการณ์การบริจาคและส่งเงินสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาอีกครั้งว่าจะมีกระแสตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศเป็นอย่างไร ก่อนที่จะพิจารณาถึงความเหมาะสมและความจำเป็นว่าจะต้องมีการปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนในรูปแบบที่ 3 (ส่งเงินสมทบ แบบรับผลตอบแทนที่ 0.63% ต่อปี หรือไม่ โดยอาจต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.อีกครั้ง
"ตอนนี้ยังยืนยันว่าอัตราผลตอบแทนที่ 0.63% อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นไปตามมติคณะกรรมการธนาคารที่ได้หารือกันไว้ในเบื้องต้นที่เห็นตรงกันว่าอัตราผลตอบแทนดังกล่าวเป็นแนวทางในการให้ความช่วยเหลือแบบเอื้ออาทร" นายลักษณ์ กล่าว
นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้น ธ.ก.ส.ประเมินว่ากองทุนช่วยเหลือชาวนาจะมีภาระในการจ่ายอัตราผลตอบแทนให้กับผู้ส่งเงินสมทบแบบรับผลตอบแทนประมาณ 126 ล้านบาท จากเป้าหมายการรับบริจาคเงินของกองทุนทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท โดยภาระในส่วนนี้ ธนาคารจะเร่งหารือกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ในการเร่งจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่สำนักงบประมาณได้ตั้งวงเงินทั้งสิ้น 5.5 พันล้านบาท เพื่อใช้รองรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในฤดูกาลผลิต 56/57 สำหรับชดเชยภาระดอกเบี้ยและค่าบริหารจัดการให้ ธ.ก.ส.ต่อไป
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังอยู่ระหว่างการหารือถึงความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการออกพันธบัตรของธนาคาร เพื่อระดมเงินมาจ่ายให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว โดยในส่วนนี้จะต้องมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบในการออกพันธบัตรว่าจะให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหรือไม่ และจะระดมทุนจำนวนเท่าไร แต่เบื้องต้นมองว่าอาจจะมีการทยอยระดมทุนเป็นงวด เฉลี่ยงวดละ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการทดสอบความต้องการของตลาดโดยรวมก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปภายใน 2-3 สัปดาห์นี้