วันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังจากมีปัจจัยบวกช่วยสนับสนุนทั้งการเมืองในประเทศ ที่ล่าสุดกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ได้ยุบรวมเวทีชุมนุมมารวมเป็นแห่งเดียว และเปิดพื้นที่การจราจรย่านธุรกิจให้กลับมาเป็นปกติ ขณะที่ยังมีความหวังเรื่องการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ล่าสุดยูโรโซนประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างน่าพอใจในหลายตัว
"บาทแข็งค่าต่อเนื่อง เพราะได้หลายปัจจัยทั้งการเมืองบ้านเราที่ตอนนี้ม็อบยุบเวทีไปแล้ว และหวังว่าจะมีการเจรจาเกิดขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาดี ซึ่งต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้ อาจจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม และปรับ Outlook ให้ดีขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมที่ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 101.31 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3777 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3774 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,339.21 เพิ่มขึ้น 13.88 จุด (+1.05%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40,349 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,154.78 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.57 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.96% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 2 เดือนแรก(ม.ค.-ก.พ.)ปี 57 เพิ่มขึ้น 1.95% ทั้งนี้ คาดว่าในเดือนมี.ค.อัตราเงินเฟ้อจะมีโอกาสแตะระดับ 2% เนื่องจากแนวโน้มราคาสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรจะปรับสูงขึ้นจากปัญหาสภาพอากาศแล้งที่ทำให้ผลผลิตลดลง อย่างไรก็ดี ยังคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 57 อยู่ในกรอบ 2.0-2.8%
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในการประชุมในเดือนมีนาคม และอีกครั้งภายในครึ่งปีแรก โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.75% ในปี 2014 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาคเอกชนในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังอ่อนแอ
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงเปิดตลาดวันนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.6% แตะระดับ 332.58 จุด เมื่อเวลา 08.07 น. ตามเวลาลอนดอน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตของจีนที่อ่อนแรงลง
- สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อประธานาธิบดีรักษาการของยูเครนได้สั่งการให้กองทัพของตนเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้รับไฟเขียวจากรัฐสภาให้ส่งทหารเข้าไปในไครเมีย ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองทางตอนใต้ของยูเครนได้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 205 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,480 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,349.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.18 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.พ. ลดลงสู่ระดับ 53.2 จาก 54.0 ในเดือนม.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงมีการฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตในประเทศสมาชิกรายใหญ่ๆ
- สมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์ญี่ปุ่น เปิดเผยยอดขายรถญี่ปุ่นในเดือนก.พ. ซึ่งไม่รวมรถขนาดเล็ก เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า แตะ 336,176 คัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยยอดขายรถยนต์นั่งปรับขึ้น 14.7% มาอยู่ที่ 300,007 คัน ส่วนยอดขายรถบรรทุก เพิ่มขึ้น 17.3% สู่ระดับ 35,093 คัน และยอดขายรถบัสเพิ่มขึ้น 17.7% แตะ 1,076 คัน