นักวิชาการชี้การเมืองป่วนทำต่างชาติหนีลงทุน ชวดเป็นศูนย์กลางอาเซียนหลังเปิด AEC

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 4, 2014 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในระดับไม่เกิน 3% ซึ่งขยายตัวต่ำสุดในกลุ่มอาเซียน ที่คาดว่าจะโตเฉลี่ยที่ 6% เพราะไทยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ) อยู่ที่ประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยแผนลงทุนในไทยต้องชะลอออกไป หรือไปลงทุนในอาเซียนอื่นแทน เช่น ไปลงทุนในอินโดนีเซีย 100,000 ล้านบาท เวียดนาม 50,000 ล้านบาท เมียนมาร์ 20,000 ล้านบาท และกัมพูชา 10,000 ล้านบาท ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งอาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีกและค้าส่ง ฯลฯ ทำให้ไทยเสียโอกาสในการลงทุน
"สิ่งที่น่าเป็นห่วงหากสถานการณ์การเมืองในไทยยังคงไม่มีเสถียรภาพ จะกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของไทยในอาเซียน หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 58 เพราะนักลงทุนจะไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล และนโยบายของรัฐ โดยมีโอกาสที่ไทยจะเสียตำแหน่งให้กับสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย หากมีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคม มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นศูนย์กลางอาเซียนได้ เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง มีแรงงานมาก" นายอัทธ์ กล่าว

ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์ฯ ประเมินว่า ปัญหาการเมืองที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้จนถึงขณะนี้จะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 57 ลงเหลือ 2-3% จากเดิมที่ประเมินว่าจะขยายตัว 3-4% และหากยังมีปัญหาต่อเนื่องไม่สามารถหาข้อยุติและตั้งรัฐบาลใหม่ได้ทันในครึ่งปีแรก เศรษฐกิจปีนี้จะไม่ขยายตัวเลย แต่หากเลยไปจนถึงไตรมาสที่ 3 ยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวติดลบ 1%

สำหรับแนวทางในการพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงรัฐบาลรักษาการ จะต้องเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวและรักษาบรรยากาศทางการเมืองไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งต้องส่งเสริมการค้าชายแดน การลงทุนของภาคเอกชน และเมื่อมีรัฐบาลใหม่ จะต้องเร่งปฏิรูปการเมือง และเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และต้องหาทางสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติไม่ให้ถอนการลงทุนจากไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ