นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านบริหารในคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายในการพัฒนาและกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(AFET) แก่ผู้บริหารสำนักงาน ก.ส.ล. โดยให้เน้นนโยบายหลักๆ 4 ประการ ได้แก่ การเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ ยกระดับการกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานสากล สนับสนุนการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลผ่าน AFET และเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในภาคเกษตร
"การระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลผ่าน AFET ซึ่งเป็นวิธีที่โปร่งใส เป็นธรรม ทำให้เกิดราคาข้าวล่วงหน้าของไทยสะท้อนไปทั่วโลก ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำงานในเชิงรุกทั้งการประชาสัมพันธ์เชิญชวนเข้าร่วมประมูล รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ ขั้นตอนและประโยชน์ของการประมูลและการซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ให้ผู้ประกอบการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีผู้เข้าร่วมประมูลแข่งขันกันมากขึ้น อีกทั้งยังเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในภาคเกษตร เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในการวางแผนการผลิตและการค้าข้าวของตนอีกด้วย" นางศรีรัตน์ กล่าว
สำหรับนโยบายการเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศนั้น ตนเองได้แนะนำให้กำหนดแผนงานรองรับการดำเนินการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) รวมทั้งการชักชวนต่างชาติเข้ามาเป็นผู้ประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังสร้างพันธมิตรโดยประสานความร่วมมือกับประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย ทั้ง ยางพารา ข้าว และมันสำปะหลัง
ด้านการยกระดับการกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานโลก สำนักงานฯ ควรยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขายล่วงหน้าให้เข้าสู่มาตรฐานสากลโดยพัฒนากฎหมาย และกฎระเบียบ และปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแลให้เป็นที่ยอมรับและสอดคล้องกับหลักการของสมาคมความร่วมมือด้านหลักทรัพย์และการซื้อขายข้อตกลงล่วงหน้าระหว่างประเทศ หรือ International Organization of Securities Commissions (IOSCO)