เงินบาทเปิด 32.27/28 แนวโน้มแข็งค่าหลังรู้ผล ECB-รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 7, 2014 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.27/28 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 32.30/32 บาท/ดอลลาร์ หลังจากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB )ออกมา โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธาน ECB กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ ECB สรุปว่ายังจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ โดยนับเป็นการบ่งชี้ว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งได้หนุนเงินยูโรให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงเกือบทุกชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหมด

"เงินบาทแข็งค่าลงมาก่อนแล้ว พอมีข่าวนี้ออกมาก็แข็งค่าลงมาอีก ถือเป็น Low ในรอบ 1 เดือน"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อ มองการเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.30 บาท/ดอลลาร์ จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งน่าจะเป็นตัวตัดสินเทรนด์ เพราะหากออกมาไม่ดีอีก ดอลลาร์คงจะอ่อนค่าต่อไปและเงินบาทก็คงแข็งค่าต่อเนื่อง

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 102.66 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3860 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3735 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3850 บาท/ดอลลาร์
  • นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักฐานบ้าง แต่ไปต่อไป หลังการเมืองดีขึ้น-เริ่มเห็น Flow กลับมาใหม่ เพียงแต่ระหว่างทางอาจจะเจอ profit taking บ้าง ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกกัน พร้อมชี้นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอยู่ว่าอาจจะชะลอลงจากเดิมอีกหรือไม่ ซึ่งก็รอดูตัวเลข PMI ของจีนเป็นสำคัญ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,350-1,360 จุด
  • ฟิทช์เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของไทยที่ระดับ BBB+ พร้อมคงแนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยให้เหตุผลว่า ไทยยังมีกรอบนโยบายการเงินที่น่าเชื่อถือและมีปัจจัยภายนอกที่แข็งแกร่งสนับสนุน ขณะที่อัตราส่วนทางการคลังสาธารณะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเช่นกัน ซึ่งความแข็งแกร่งเหล่านี้ช่วยให้ไทยสามารถต้านทานปัจจัยลบจากการชะลอมาตรการคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศได้
  • นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย และพันธมิตรทางธุรกิจจากประเทศต่างๆ ภายในงานอินเตอร์เนชั่นแนล ทัวริสซึ่ม บอร์เซ่ (ไอทีบี) 2014 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พบว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติจากยุโรป ทั้งเยอรมนี อังกฤษ ยังถือว่าดี แม้ปัญหาการเมืองไทยยังไม่ยุติก็ตาม เพราะขณะนี้เริ่มมียอดการจองล่วงหน้าเข้ามามากขึ้น เพราะปัญหาการเมืองไม่ได้รุนแรงเท่ากับประเทศยูเครน รวมทั้งยุโรปยังมีปัญหาทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ทำให้มีการนำเสนอข่าวปัญหาการเมืองของไทยน้อย ซึ่งเป็นผลดีต่อการตัดสินใจมาเที่ยวไทยง่ายขึ้น
  • นักลงทุนญี่ปุ่นยาหอมไทย-อินโดฯ น่าลงทุนในอาเซียน ชูไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เจซีซีโชว์สถิติตัวเลขการลงทุนญี่ปุ่นในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอสเอ็มอีไหลเข้ามาจำนวนมากรับปัญหาการเมืองอาจทำให้ต้องกระจายความเสี่ยงไปลงทุนที่อื่น
  • ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติม
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังเงินเยนอ่อนค่าลง ส่วนค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทยและมาเลเซีย แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้
  • นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า เงินเฟ้อในยูโรโซน ซึ่งอยู่ที่ 0.8% ในเดือนก.พ.นั้น จะเพิ่มขึ้น 1% ในปีนี้ และจะปรับขึ้นแตะ 1.7% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2559

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีสรุปว่ายังจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ โดยนับเป็นการบ่งชี้ว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งได้หนุนเงินยูโรให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์

  • นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลเมื่อวานนี้ว่า ภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับเปลี่ยนแนวทางในกาปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมกำหนดนโยบายครั้งต่อๆไป
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 1 มี.ค. ปรับตัวลดลง 26,000 ราย มาอยู่ที่ 323,000 ราย เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะลดลงที่ระดับ 336,0000 ราย ซึ่งส่งสัญญาณถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งขึ้นของตลาดแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง
  • กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ภาคโรงงานของสหรัฐได้ปรับตัวลงอย่างเหนือคาดหมายในเดือนม.ค. นับเป็นอีกสัญญาณของการหดตัวลงของกิจกรรมการผลิต โดยยอดสั่งซื้อสินค้าภาคการผลิตปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนม.ค. หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ