นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.34/35 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.27/28 บาท/ดอลลาร์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ออกมาค่อนข้างดี
"เปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังตัวเลข(การจ้างงานนอกภาคเกษตร)ของอเมริกาออกมาค่อนข้างดี" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.4100 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (7 มี.ค.) อยู่ที่ 2.07132% และ THAI BAHT FIX 6M (7 มี.ค.) อยู่ที่ 2.06000%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 102.93 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3884 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ1.376 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.2730 บาท/ดอลลาร์
- สศค.หวั่นรายได้รัฐบาลปี 2557 พลาดเป้า หลังสถานการณ์การเมืองทำเศรษฐกิจชะลอกระทบการจัดเก็บรายได้ เตรียมปรับแผนรองรับ พร้อมระบุทิศทางการจัดงบประมาณสมดุลปี 2560 อาจสะดุด หลังประเมิน ภาพรวมเศรษฐกิจส่อขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ
- "สแตนชาร์ด-ทีเอ็มบี"ประเมิน กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย เห็นพ้องไม่จำเป็นต้องผ่อนปรนนโยบายการเงินเพิ่ม ระบุสาเหตุมาจากการเมือง หากคลี่คลายเศรษฐกิจฟื้นเร็ว ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อเริ่มส่อแววขึ้นเร็วจากราคาน้ำมันกดดัน
- บีโอไอเผยมีโครงการขอลงทุนค้างท่อรอบอร์ดใหม่อนุมัติส่งเสริมฯ 2 เดือนแรกปีนี้กว่า 5 แสนล้านบาท ด้านยอดคำขอใหม่ 2 เดือนแรก 7 หมื่นล้านบาท ลดลงเท่าตัว เตรียมทบทวนเป้าหมายยอดขอรับส่งเสริมฯ 9 แสนล้านบาทว่าจะได้หรือไม่
- นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า โอกาสที่การส่งออกไทยปี 2557 จะขยายตัวได้ตามคาดการณ์ไว้ 5% คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจน มีผลต่อความวิตกลังเลต่อการสั่งซื้อสินค้าไทย อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา และยังเร็วเกินไปที่จะปรับเป้าหมายการส่งออก ซึ่งการประเมินตัวเลขส่งออกคงต้องรอรัฐบาลใหม่ และผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการชุมนุมทางการเมือง
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 1.11% แตะที่ 6.1312 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 88 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,400 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,341.34 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 9.52 ดอลลาร์สหรัฐ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ S&P 500 ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน โดยนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ.ที่ออกมาดีเกินคาด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไม่แน่นอนในยูเครน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 30.83 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 16,452.72 จุด, ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.01 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,878.04 ซึ่งสูงกว่าสถิติสูงสุดที่ทำไว้ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 15.90 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 4,336.22 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองเมื่อวันศุกร์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือน ก.พ.ที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนมุมมองบวกของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในโลกและเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 102.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 109 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดได้ลดความน่าดึงดูดใจในการลงทุนในทองคำ และยังทำให้ความหวังที่ว่าเฟดอาจชะลอการลดขนาดมาตรการกระตุ้นนั้นต้องเจือจางไป โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ปรับตัวลง 13.6 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 1,338.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองไต่ขึ้น 1.3% ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.ดิ่งลง 64.6 เซนต์ หรือ 3.0% ปิดที่ 20.928 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,483.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ม.ค.ขยับขึ้น 0.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 781.80 ดอลลาร์/ออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เมื่อวันศุกร์ หลังจากข้อมูลการจ้างงานที่เพิ่มสูงเกินคาดได้หนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงเดินหน้าลดขนาดมาตรการกระตุ้นต่อไปตามแผนที่ได้วางไว้ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.30 เยน จากระดับ 103.05 เยน และแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1099 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0984 ดอลลาร์แคนาดา แต่ลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8774 จากระดับ 0.8805 ฟรังค์ ส่วนค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3871 จาก 1.3860 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.6726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6742 ดอลลาร์สหรัฐ