BOI เผย 2 เดือนแรกจำนวน-มูลค่าขอรับส่งเสริมลดลง นลท.รอดูสถานการณ์ในปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 10, 2014 14:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยถึงสถิติการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 57(ม.ค.-ก.พ.) ว่า มีจำนวนโครงการยื่นขอรับส่งเสริม 188 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 63,100 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการลดลงร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนลดลงร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการยื่นขอรับส่งเสริมรายอุตสาหกรรม จะพบว่ามีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีการขยายการลงทุนในระดับหมื่นล้านบาท อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติก มีมูลค่าเงินลงทุนของโครงการทั้งหมดที่ยื่นขอรับส่งเสริม 22,500 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องจักร มีมูลค่าเงินลงทุน 17,400 ล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มีมูลค่าเงินลงทุน 13,500 ล้านบาท

"นักลงทุนส่วนหนึ่งอาจยังรอดูสถานการณ์ภายในประเทศของไทยก่อน จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ชะลอแผนการยื่นขอรับส่งเสริมออกไปก่อน แต่ก็ยังมีนักลงทุนอีกหลายกลุ่ม รวมทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้ยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนที่เดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศไทยอยู่ ขณะเดียวกันก็ยังไม่พบสัญญาณใดๆ ที่นักลงทุนจะถอนการลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตไปจากประเทศไทย" เลขาธิการบีโอไอกล่าว

นายอุดม กล่าวด้วยว่า ในปีนี้บีโอไอยังมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนอื่นๆ ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุน อาทิ โครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรือ อีโคคาร์ ระยะ 2 ซึ่งขณะนี้มีการยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาแล้ว และจะเปิดให้ค่ายรถยนต์ยื่นคำขอการลงทุนได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอี ซึ่งจะสิ้นสุดการให้ส่งเสริมในสิ้นปีนี้

นายอุดม ยังกล่าวถึงการยื่นขอรับส่งเสริมของโครงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.57 ว่า แม้ในภาพรวมของการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศจะลดลง แต่ก็มีโครงการลงทุนจากหลายประเทศที่มีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของภาพรวมพบว่า โครงการลงทุนจากต่างประเทศยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 121 โครงการ ลดลงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าเงินลงทุนในปีนี้ มีมูลค่า 47,296 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นักลงทุนต่างชาติกลุ่มหลักยังคงเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 61 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 17,379 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการลดลงร้อยละ 42 ส่วนมูลค่าเงินลงทุนลดลงร้อยละ 63

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนจากญี่ปุ่นและอีกหลายชาติจะลดลง แต่ก็มีการลงทุนจากอีกหลายชาติที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อาทิ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 9,761 ล้านบาท, สิงคโปร์ มีมูลค่าเงินลงทุน 2,195 ล้านบาท, ฮ่องกง มีมูลค่าเงินลงทุน 2,128 ล้านบาท, เนเธอร์แลนด์ มีมูลค่าเงินลงทุน 1,998 ล้านบาท และการลงทุนจากจีน มีมูลค่าเงินลงทุน 1,461 ล้านบาท


แท็ก บีโอไอ   ก.พ.   BOI  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ