สำหรับการประมูลซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปปริมาณ 517,000 ตันเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้เจรจาต่อรองกับผู้ที่เสนอราคาซื้อข้าวรัฐเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเสร็จแล้ว และเสนอผลการพิจารณาให้ตนได้อนุมัติขายแล้ว โดยได้อนุมัติขายทั้งสิ้น 180,000 ตัน
นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติขายให้กับผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ มาเสนอซื้อจากรัฐโดยตรงอีก 550,000 ตัน รวมทั้งสิ้น 730,000 ตัน มูลค่า 8,500-9,000 ล้านบาท
"สาเหตุที่กองแรกขายได้น้อย เพราะผู้เสนอราคาได้เสนอราคาซื้อที่ต่ำกว่าเกณฑ์ราคากลางที่กำหนดไว้มาก หวังจะซื้อข้าวรัฐราคาถูก จึงไม่อนุมัติขายให้ โดยรวมแล้วทั้ง 2 กอง ขายได้ในราคาใกล้เคียงราคาตลาด คาดว่า แนวโน้มราคาข้าวของไทยน่าจะปรับตัวสูงขึ้น จากปัญหาอากาศแปรปรวนทั่วโลก ทำให้ผลผลิตข้าวโลกเสียหาย"นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวถึงการเปิดประมูลข้าวรัฐผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ปริมาณ 244,000 ตันที่มีอันต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 26 มี.ค.ว่า หากขายได้หมดจะคิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านบาท
พร้อมระบุถึงกรณีที่กลุ่มชาวนา และกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์(กปปส.) เผาหุ่นที่ติดใบหน้าของตนว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และทำให้หมดกำลังใจ เพราะตนทำงานให้ชาวนามาโดยตลอด แต่ชาวนาไม่เห็นใจ และไม่มีใจต่อกันเลย แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องทำงานต่อไป เพราะอาสาเข้ามาแล้ว