นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เปิดให้บริการด้านการแสวงหาปัจจัยการผลิตให้กับ SMEs เพื่อลดต้นทุนการผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้า โดยเปิดโอกาสให้ SMEs ที่ต้องการหาวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้า สามารถติดต่อมายังกรมฯ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและค้นหาได้ว่ามีประเทศใดในโลกนี้ที่ผลิตวัตถุดิบดังกล่าว ซึ่งจะใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นกรมฯ จะแจ้งรายละเอียดทั้งหมดไปให้ทั้งประเทศที่ผลิต บริษัทที่ผลิต ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ SMEsได้ติดต่อค้าขายต่อไป
"วิธีการของกรมฯ คือ SMEs ต้องการวัตถุดิบใดให้แจ้งพิกัดศุลกากรมาที่กรมฯ จากนั้นกรมฯ จะไปตรวจสอบดูว่าวัตถุดิบนั้นๆ มีประเทศใดเป็นผู้ส่งออกหลักๆ จากนั้นก็ให้ทูตพาณิชย์ไปตรวจสอบดูว่าใช่วัตถุดิบอย่างที่ SMEs ต้องการหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะไปหารายละเอียดของบริษัทผู้ผลิต แล้วนำกลับมาแจ้งให้ทราบ เพื่อให้ติดต่อทำการค้ากันต่อไป ซึ่งถือเป็นบริการที่จะช่วยลดต้นทุน และสร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้กับ SMEs ได้" นางนันทวัลย์ กล่าว
พร้อมกันนั้น กรมฯ ยังจะผลักดันให้ SMEs มีช่องทางใหม่ๆ ในการค้าขาย โดยจะผลักดันให้ เข้ามาค้าขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com เพื่อเพิ่มช่องทางการทำการค้าให้มากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ค้าขายในเว็บไซต์แล้วประมาณ 11,500 ราย มีผู้เข้าเยี่ยมชมสินค้า 1.8 ล้านรายจากทุกประเทศทั่วโลก และมีผู้ซื้อที่มาลงทะเบียนแล้ว 53,000 ราย โดยมียอดขายในปีที่ผ่านมาประมาณ 1,700 ล้านบาท