"มองว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2557 นี้น่าจะหดตัวค่อนข้างมากอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ถึง 25 คิดเป็นยอดขายรถยนต์จำนวน 1 ถึง 1.06 ล้านคันในปีนี้ หดตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่หดตัวร้อยละ 7...ยอดการผลิตรถยนต์อาจจะต้องเผชิญกับภาวะการหดตัวอีกครั้ง หลังจากที่เคยหดตัวลงในช่วงปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่ไทยประสบกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ โดยในปี 2557 นี้ คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์อาจลดลงเหลือเพียงประมาณ 2.2 ถึง 2.3 ล้านคัน หรือหดตัวลงกว่าร้อยละ 6 ถึง 10 จากปี 2556 ที่มียอดผลิตสูงมากกว่า 2.45 ล้านคัน และอาจทำให้อันดับประเทศผู้ผลิตรถยนต์ของไทยปรับลดลงจากอันดับ 9 ในปีที่แล้วได้" ศูนย์วิจัยฯ ระบุ
จากตัวเลขการรายงานยอดขายรถยนต์ในประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 ของสถาบันยานยนต์ ชี้ให้เห็นถึงยอดขายรวมที่เหลือเพียง 140,228 คัน ลดลงอย่างมากถึงกว่าร้อยละ 45.2 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีจำนวน 255,727 คัน ส่งผลให้เห็นถึงทิศทางการหดตัวของตลาดรถยนต์ปีนี้ได้อย่างชัดเจน หลังผลจากโครงการรถยนต์คันแรกได้หมดลง โดยค่ายรถยนต์ต่างส่งมอบรถยนต์ที่ค้างส่งเสร็จสิ้นแล้ว
ซึ่งทิศทางยอดขายรถยนต์หดตัวเช่นนี้ คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปเกือบตลอดทั้งปี จากปัจจัยลบรอบด้าน ได้แก่ ความต้องการซื้อรถยนต์ที่หดตัวอยู่แล้วจากการที่โครงการรถยนต์คันแรกได้ดึงความต้องการซื้อล่วงหน้าในอนาคตไปใช้ และฐานที่สูงมากจนถึงช่วงประมาณกลางปี รวมถึงกำลังซื้อที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวอยู่จากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในตลาดภูมิภาคต่างจังหวัด นอกจากนี้ปัจจัยลบอีกประการสำคัญที่เข้ามากระทบตลาดปีนี้ คือ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่อาจจะยืดเยื้อ ซึ่งนอกจากจะทำให้บรรยากาศในการซื้อรถยนต์ลดลงแล้ว การดำเนินนโยบายของรัฐบาลในบางด้านที่ล่าช้าออกไป ก็อาจมีผลต่อความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้ซื้อบางกลุ่ม เช่น เกษตรกร ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น
อนึ่ง แม้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะมีการจัดงานมอเตอร์โชว์ 2014 แต่ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า งานในปีนี้อาจจะไม่คึกคักเท่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากปัจจัยเรื่องโครงการรถยนต์คันแรก และบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยในปีนี้ที่ซบเซาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปัญหาทางด้านการเมือง ซึ่งอาจจะกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคให้น้อยลงกว่าช่วงเวลาปกติ โดยปัจจัยที่อาจมาช่วยกระตุ้นตลาดได้บ้าง คือ การที่ผู้บริโภคมีการชะลอการซื้อรถยนต์มานานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของบางค่าย และโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดที่ยังถือว่าให้สิทธิประโยชน์กับผู้ซื้อพอสมควร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ แนวโน้มที่ตลาดรถยนต์ในปีนี้จะออกมาหดตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ซื้อบางกลุ่มอาจมองว่า ค่ายรถยนต์น่าจะยังต้องมีการออกโปรโมชั่นดึงดูดทางการตลาดอะไรออกมาอีกในภายหลังเพื่อกระตุ้นยอดขายที่ชะลอลงในปีนี้อีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 คาดว่าน่าจะสามารถเริ่มเห็นตัวเลขการขยายตัวของยอดขายรถยนต์ในประเทศได้อย่างชัดเจนมากขึ้น จากปัจจัยบวก ได้แก่ ฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว และสถานการณ์ต่างๆที่คาดว่าน่าจะเริ่มคลี่คลายได้มากขึ้น ทั้งภาวะความขัดแย้งทางการเมือง และการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และการเตรียมตัวของธุรกิจเพื่อเข้าสู่ปีแห่งการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งคงจะทำให้การออกแคมเปญและรถยนต์รุ่นใหม่ๆสามารถกระตุ้นตลาดในช่วงนี้ได้มากขึ้น ซึ่งก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีของตลาดมากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์
ทั้งนี้ จากยอดขายในประเทศที่หดตัว ส่งผลให้การผลิตรถยนต์ปี 2557 มีแนวโน้มหดตัวเช่นกัน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าการผลิตรถยนต์มีโอกาสหดตัวต่อเนื่องกว่าร้อยละ 6 ถึง 10 ส่งผลให้เหลือยอดการผลิตเพียง 2.2 – 2.3 ล้านคัน โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 ที่ผ่านมาได้หดตัวลงไปแล้วถึงกว่าร้อยละ 28 นำโดยผลของตลาดในประเทศที่ซบเซาลงเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การปรับลดลงของยอดการผลิตในปี 2557 นี้ เป็นเพียงการปรับลดลงในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี คาดว่าสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นบ้างแล้ว รวมถึงค่ายรถยนต์บางค่ายก็จะเริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์ใหม่ในช่วงนี้ และโครงการอีโคคาร์รุ่นที่ 2 น่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยก้าวไปสู่เป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 3 ล้านคัน ได้สำเร็จภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ ขณะที่ตลาดต่างประเทศก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้นตามลำดับนั้น ทำให้อาจจะเริ่มเห็นอัตราการขยายตัวของยอดขายรถยนต์รายเดือนที่หดตัวน้อยลงหรือเริ่มเป็นบวก ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง