นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิด 32.44/46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.51 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร(Non farm Payroll)ในเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาไม่ดีเท่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสกุลเงินในเอเชียกลับมาแข็งค่าขึ้น วันนี้คาดว่าเงินบาทคงแกว่งในกรอบ เพราะยังไม่มีปัจจัยเด่น เป็นเพียงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำวันของสหรัฐ และอาจต้องจับตาช่วงหลังสงกรานต์ถึงสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ
"เมื่อวันศุกร์ตัวเลข Non farm Payroll ของสหรัฐออกมาไม่ดีเท่าที่ตลาดคาดการณ์ ดอลลาร์จึงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินในเอเชีย วันนี้บาทไม่น่าจะขยับมาก เพราะยังไม่มีปัจจัยเด่นๆ อาจต้องไปรอดูการเมืองในประเทศช่วงหลังสงกรานต์ไปแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ
โดยคาดว่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.87/88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 103.68 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3743/3746 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3685 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5380 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารโลก กดประมาณจีดีพีไทยปีนี้ โต 3% สถานการณ์การเมืองไม่เอื้อบริโภค-ลงทุนแผ่ว แต่หากจบเร็วจะเติบโตมากกว่านี้ หวังเศรษฐกิจโลกฟื้นต่อเนื่อง ดันส่งออกพยุงจีดีพี
- ปลัดคลังแจงที่ประชุม รมว.คลังอาเซียน ที่เมียนมาร์ เผยจีดีพีไทยปีนี้โต 2.6% ปัจจัยชุมนุมการเมืองไม่กระทบเพราะพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง รวมทั้งความพร้อมเข้าสู่ AEC เนื่องจากไทยเตรียมพร้อมในภาคการเงินมานาน
- "นันทวัลย์" ตั้งคณะทำงานผลักดันส่งออกสู่ตลาดใหม่ เน้นอาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซียและ CIS และแอฟริกา ใช้อดีตทูตพาณิชย์เป็นหัวหน้าทีมทำงานร่วมกับภาคเอกชน เฟ้นหาสินค้าที่มีโอกาส ก่อนอัดกิจกรรมเพิ่มยอด พร้อมทำแผนสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยสร้างความมั่นใจลูกค้า
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(7 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากข้อมูลจ้างงานของสหรัฐเดือนมี.ค.ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ 6.7% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานจะลดลงแตะ 6.6%
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเปิดที่ระดับ 12,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ ซึ่งทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวาน โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,303.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.4% ที่ระดับ 137.97 จุด เมื่อเวลา 09.35 น.ตามเวลาฮ่องกง เนื่องจากหุ้นกลุ่มบริษัทเฮลธ์แคร์และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหดตัวลง
- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.ของญี่ปุ่นได้ดีดกลับมาเป็นยอดเกินดุลครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยแตะที่ 6.127 แสนล้านเยน (ประมาณ 5.94 พันล้านดอลลาร์)
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่าลิเบียจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ 2 ใน 4 แห่งได้ในเร็วๆ นี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 100.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 105.82 ดอลลาร์/บาร์เรล