"ผู้ส่งออกข้าวมีความเป็นห่วงเรื่องราคาข้าวที่ตกต่ำลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบายข้าวของภาครัฐที่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก" นายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าว
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ระบายข้าวในสต๊อกไปแล้วกว่า 2.5 ล้านตัน ซึ่งแม้จะเป็นข้อดีแต่มีผลกระทบในเรื่องราคา เพราะวิธีการระบายไม่ถูกต้อง โดยภาครัฐจะต้องมีการปรับเปลี่ยนปริมาณและวิธีการในการระบายข้าวให้สอดคล้องกับภาวะตลาด
เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการระบายข้าวผ่านตลาด AFET และการประมูล โดยคาดว่าราคาข้าวขาว 5% จะอยู่ที่ประมาณ 394 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งน่าจะเป็นราคาต่ำที่สุดในปีนี้แล้ว
ส่วนแนวโน้มการส่งออกข้าวในปีนี้ภาคเอกชนมองว่าจะไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 7 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณข้าวออกสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งจากการระบายของภาครัฐ และผลผลิตของชาวนาที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้
เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า กรณีที่ กขช.เตรียมบังคับให้ผู้ส่งออกข้าวต้องมีปริมาณข้าวสำรองไม่ต่ำกว่า 500 ตันนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อภาคเอกชน เนื่องจากปกติผู้ประกอบการต้องสำรองข้าวในปริมาณดังกล่าวอยู่แล้ว และหากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ก็มีการสำรองข้าวไว้มากกว่า 1 หมื่นตันอยู่แล้ว และแนวทางนี้ก็จะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพราคาข้าวตามที่รัฐบาลต้องการ