ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2557 จะต่ำกว่าเป้า 5% หรือราว 23,000 ล้านบาท จากเป้าหมายรวม 463,000 ล้านบาท เพราะสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ส่งผลกระทบต่อความบริโภคของประชาชนลดลง รวมทั้งการต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ทำให้กรมฯ สูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 9,000 ล้านบาท
นายสมชาย ยังกล่าวถึงการจ่ายเงินคืนในโครงการรถยนต์คันแรก โดยยืนยันว่ายังดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิตามปกติ โดยขณะนี้ยังเหลือเงินที่เพียงพอในการจ่ายโครงการดังกล่าว 9,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้ถึงเดือน ก.ย.นี้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล
"ขณะนี้ กรมฯ กำลังหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และกรมบัญชีกลาง เพื่อหาแนวทางรองรับหากวงเงินที่มีอยู่ 9,000 ล้านบาทไม่เพียงพอต่อการจัดสรรวงเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิ เนื่องจากปัจจุบันอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการอาจใช้เวลาพิจารณานาน เพราะต้องผ่านการพิจารณาของหลายหน่วยงาน เบื้องต้นคาดว่าจะต้องขอสำรองวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก 2 แนวทาง ได้แก่ เงินคงคลัง และงบกลาง" นายสมชาย กล่าว
พร้อมระบุว่า นอกจากนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแนวทางจัดหาวงเงินเพื่อจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการรถยนต์คันแรกสำหรับปีงบประมาณ 58 ซึ่งเท่าที่ประเมินต้องใช้เงินจ่ายคืนผู้ที่ได้สิทธิรถยนต์คันแรก 15,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ว่าจะต้องใช้เงิน 25,000 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้ที่ไม่ยอมมารับรถยนต์และคาดว่าจะสละสิทธิถึง 100,000 ราย ทำให้ประหยัดงบได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท