สำหรับข้อสังเกตของคณะกรรมการ ธ.ก..ส. ประกอบด้วย ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยกรณีการออกพันธบัตรที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันอาจมีความเสี่ยงต่อธนาคารมากเกินไป อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 3.25-3.5% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยตามอัตราที่ FDR+1 หรือคิดเป็นประมาณ 2.4% จะมีองค์กรหรือหน่วยงานใดมารับผิดชอบความเสี่ยงดังกล่าว
นอกจากนั้น คณะกรรมการ ธ.ก.ส.ยังมีความเป็นห่วงเรื่องอายุของพันธบัตร และกรอบระยะเวลาในการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์อาจจะไม่สอดคล้องกัน ซึ่งจะส่งผลความเสี่ยงในการไถ่ถอนพันธบัตร อีกทั้งขั้นตอนในการออกพันธบัตรใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานราว 4 เดือนนั้นอาจจะนานเกินไปเมื่อพิจารณาจากกำหนดที่รัฐบาลต้องหาเงินมาชดเชยงบกลางที่นำมาจ่ายไปก่อน
"ธ.ก.ส.ได้ส่งข้อสังเกตให้นายกิตติรัตน์ พิจารณาแล้ว ขึ้นกับการตัดสินใจต่อไปอย่างไร" นายลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ในฐานะประธานบอร์ด ธ.ก.ส.ได้มอบหมายฝ่ายจัดการธนาคารไปดำเนินการจ้างบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือเข้ามาจัดอันดับธนาคารและผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารเพื่อให้ทราบว่าธนาคารมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดระยะเวลาหากในอนาคตดำเนินการออกพันธบัตร