นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมว่า ต้องการติดตามปัญหาเศรษฐกิจที่มีปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลกระทบทั้งด้านการลงทุน การสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุน ดังนั้นภาครัฐจะต้องทำงานบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนและประชาชนในการหาทางออกของปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข เช่น กระทรวงพาณิชย์ที่เลื่อนการทำสัญญา FTA กับต่างประเทศออกไปทำให้เกิดความล่าช้า ดังนั้น ต้องเร่งแก้ในจุดที่เร่งด่วนก่อน เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะติดตามมา
ทั้งนี้ คาดว่าที่ประชุมจะติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกและการลงทุน นอกจากนี้คาดว่าสภาพัฒน์จะรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทยหลังผ่านไตรมาสแรกของปี 57 และการคาดการตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมอาจจะมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของวันเลือกตั้งทั่วไป และยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการบริหารประเทศ ที่จะส่งผลกระทบต่อการอนุมัติโครงการเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลรักษาการมีแนวคิดขออนุมัติงบกลางจำนวน 4 หมื่นล้านบาท จ่ายเงินให้กับชาวนาที่ยังค้างอยู่
สำหรับรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมประชุมในวันนี้ เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์, นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ