นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(AFET) ครั้งที่ 9 ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ปริมาณกว่า 200,000 ตันนั้น คาดว่า น่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการเสนอราคาซื้อเหมือนที่ผ่านมา ส่วนราคาที่จะอนุมัติขายนั้นจะต้องไม่ต่ำจนเกินไป เพราะหากต่ำมากจะยิ่งดึงให้ราคาข้าวในตลาดลดลงอีก สำหรับการเปิดประมูลใน 8 ครั้งที่ผ่านมา สามารถขายได้ราว 550,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งได้นำส่งคืนกระทรวงการคลังไปแล้ว
ส่วนแผนรักษาระดับราคาข้าวในประเทศในช่วงที่ไม่มีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางการรักษาระดับราคาข้าวในส่วนที่แต่ละหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยกระทรวงพาณิชย์นั้นดูแลการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ทั้งกรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศจะร่วมมือกันไม่ขายให้เอกชนในราคาต่ำเกินไป เพราะจะยิ่งเป็นแรงกดดันให้ราคาข้าวในประเทศลดต่ำลงอีก
"การเปิดขายให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมาขอซื้อโดยตรงจากกระทรวงพาณิชย์นั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เพราะกรมการค้าต่างประเทศ ขายให้ราคาใกล้เคียงกับการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป นอกจากนี้ จะอยู่ระหว่างการจัดทำตลาดนัดซื้อขายข้าวเปลือก โดยจะเปิดให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาขายที่ตลาดกลางค้าข้าว แล้วให้พ่อค้า โรงสีจำนวนหนึ่งมารับซื้อ ซึ่งจะช่วยทำให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำลง" นายสมชาติ กล่าว