"รัฐบาลต้องการให้ป.ป.ช.ตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศใหม่ทั้งหมด จะได้รู้ว่าข้าวไม่ได้หายไป เพราะถ้าป.ป.ช.ยึดข้อมูลของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี จะทำให้ความเสียหายของรัฐบาลมีมาก แต่ถ้าเอาข้าวเกือบ 3 ล้านตันมารวมด้วย ความเสียหายก็จะลดลงอีกกว่าแสนล้านบาท" รมช.พาณิชย์ กล่าว
สำหรับสาเหตุที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีระบุว่าข้าวในสต๊อกหายไปเกือบ 3 ล้านตัน จากการปิดบัญชีครั้งที่ 2 วันที่ 11 ม.ค.56 และครั้งที่ 3 วันที่ 31 พ.ค.56 นั้น นายยรรยง กล่าวว่า ข้าวปริมาณดังกล่าวไม่ได้หายไป แต่ที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้นำมาใส่ไว้ในบัญชีเป็นเพราะข้าวอยู่ระหว่างการเดินทาง เช่น การสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร และโรงสีอยู่ระหว่างการส่งมอบเข้าโกดังกลางของรัฐบาล หรือเป็นข้าวที่ได้ขายไปแล้วและอยู่ระหว่างที่ผู้ซื้อมารับมอบ เป็นต้น แต่เมื่อพ้นระยะเวลาการปิดบัญชีไปแล้ว จึงทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าข้าวดังกล่าวอยู่ที่ใดบ้าง
นายยรรยง กล่าวว่า รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ป.ป.ช.จะพิจารณารับข้อเสนอของรัฐบาลในการตรวจสอบสต๊อกข้าวอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดมาประกอบการพิจารณากรณีของนายกรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นจะทำให้การพิจารณาของป.ป.ช.ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม หากรับข้อเสนอของรัฐบาลและ ป.ป.ช.ต้องการจะตรวจสอบสต๊อกข้าว รัฐบาลก็พร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างดี